บล.บัวหลวง: 

SC Asset Corporation (SC TB /SC.BK)

SC – อุปสงค์บ้านระดับบนที่ยังคงแข็งแกร่งมาก ท่ามกลางสภาวะตลาดอันผันผวน

SC เผยอุปสงค์โครงการใหม่ที่แข็งแกร่ง ได้แก่ 1) 95E1 ขายแล้วกว่า 4 ยูนิต (คาด 5 ยูนิตในปี 2566) 2) COBE ขายแล้วกว่า 50% (คาด 30%) และ 3) SCOPE หลังสวนต้องปรับราคาขึ้น 14% เราปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 เพิ่มจาก 4.50 บาท มาอยู่ที่ 5.20 บาท!

95E1: “สะดุดตา”

95E1 (ไนน์ตี้ไฟว์ อีสต์ วัน) มูลค่าโครงการ 1.0 พันล้านบาท และมีเพียง 10 ยูนิต ซึ่งเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นบ้านหรูในเมืองของ SC ก่อนเปิดตัวโครงการนี้ SC ตั้งเป้าหมายยอดจองซื้อที่ 5 ยูนิตจากทั้งหมด 10 ยูนิต ภายในหนึ่งเดือน หลังจากเปิดตัว SC สามารถขายโครงการนี้ได้ถึง 4 ยูนิต มูลค่า 420 ล้านบาท คิดเป็น 42% ของยอดขายโครงการทั้งหมดซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ SC ดังนั้น SC จึงมองว่าจะสามารถขายโครงการนี้ได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ภายใต้ ระยะเวลา 8 เดือนของการก่อสร้าง บ้านหลังแรกของ 95E1 จะพร้อมโอนภายในวันที่ 23 ก.ย. ดังนั้นเราคาดว่าจะเห็นรายได้ที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3-4/66 นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้นของโครงการนี้ยังคงสูงโดย เฉลี่ยอยู่ที่ช่วง 32-35% ราคาขายโครงการนี้เริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท/ยูนิต ในขณะที่ผู้ซื้อบ้านหรูในโครงการนี้เป็นคนไทย 100% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของคนไทยต่อโครงการบ้านหรู

COBE: “แบรนด์ใหม่สําหรับคนรุ่นใหม่”

COBE รัชดา – พระราม 9 เป็นโครงการคอนโดราคาเริ่มต้นที่ 115,000 บาท/ ตร.ม. เจาะกลุ่ม Gen-Z โครงการคอนโดแบรนด์ใหม่นี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. (1,620 ยูนิต มูลค่า 6.0 พันล้านบาท) ในตอนแรก SC คาดว่าอัตราการ จองชื้อจะอยู่ในช่วง 30-40% แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน SC รายงานยอดจองซื้อมากกว่า 50% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดซึ่งเกินความคาดหมายของ SC COBE มีทั้งหมด 9 อาคาร (อาคาร A ถึง I) อาคาร A เปิดขายเฉพาะชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นอุปสงค์ที่แข็งแกร่งมาก (ขายแล้ว 130 ยูนิตจาก 180 ยูนิต คิดเป็น 72%) นอกจากนี้ อาคาร C ทั้งหมดถูกขายให้กับนักลงทุนชาวไต้หวัน และจะขายต่อให้กับชาวไต้หวัน ดังนั้นผู้ซื้อโครงการคอนโดกลุ่มนี้จึงเป็นคนไทย 50% และต่างชาติ 50% (จีนและไต้หวัน) โครงการนี้จะพร้อมโอน ในเดือนพ.ย. 2568 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ช่วง 30-35%

SCOPE หลังสวน: “International Premium”

The Scope หลังสวน เคยมีมูลค่าโครงการรวม 8.6 พันล้านบาทตั้งแต่ ไตรมาส 3/65 แต่ปัจจุบันมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 9.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% สาเหตุหลักที่ราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปสงค์คที่แข็งแกร่งของโครงการนี้ ปัจจุบันราคาขายของโครงการนี้เริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท/ยูนิต ในขณะที่ผู้ซื้อคอนโดระดับไฮเอนด์ในโครงการนี้ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและมีเพียงไม่กี่ยูนิตที่ถูกซื้อโดยชาวต่างชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของคนไทยต่อ โครงการคอนโดระดับไฮเอนด์

แนวโน้มกำไรเติบโตดีในไตรมาส 2/66

กำไรของ SC จะเติบโตในทุกไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/66 เราประมาณการกำไรหลักในไตรมาส 2/66 อย่างระมัดระวังที่ 560 ล้านบาท ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 5% QoQ เราปรับมูลค่า PER จาก 6.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) มาอยู่ที่ 7.5 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาว) เรายังกำหนดมูลค่าตลาดที่ 1.0 บาท/หุ้น คิดลด 30% จากราคาประเมิน ดังนั้นราคาเป้าหมายณสิ้นปี 2566 ของเราจึงปรับขึ้นจาก 4.50 บาท มาอยู่ที่ 5.20 บาท

- Advertisement -