บล.บัวหลวง: 

Siam Cement (SCC TB/SCC.BK)

SCC – กำไรไตรมาส 2/66 สูงกว่าคาด; คาดกำไรหลักเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/66

สูงกว่าทุกคาดการณ์

SCC รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 8,082 ล้านบาท ลดลง 19% YoY และ 51% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษจากกำาไรครั้งเดียวจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน กำไรหลักจะอยู่ที่ 7,057 ล้านบาท ลดลง 29% YoY แต่เพิ่มขึ้น 53% QoQ ผลประกอบการสูงกว่าที่เราและตลาดคาดมาก เนื่องจากรายได้อื่นๆ ที่มากกว่าคาดและการบันทึกกำไรพิเศษ SCC ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 2.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 0.8% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 25 ส.ค.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

ปัจจัยหลักที่กดดันกําไรหลักให้ปรับตัวลดลง YoY ได้แก่ 1) กําไรจากทุกธุรกิจ (ธุรกิจปิโตรเคมี, ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง, และธุรกิจบรรจุภัณฑ์) ที่ปรับตัวลดลง, 2) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ปรับตัวลดลง, 3) ค่าใช้จ่าย ในการขายและบริหารที่สูงขึ้น โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12.9% จาก 12.0% ในไตรมาส 2/65, และ 4) อัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น ในขณะที่ปัจจัยหลักที่หนุนกำไรหลักให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ ได้แก่ 1) กำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ, 2) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลงจาก 13.2% ในไตรมาส 1/66, และ 3) อัตราภาษีจ่ายที่ลดลง

ธุรกิจปิโตรเคมีรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 741 ล้านบาท ลดลง 80% YoY และ 91% QoQ (ขาดทุนจากสินค้าคงคลัง) ในขณะที่ EBITDA จากการดำเนินงานลดลง 39% YoY (ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 14% QoQ (ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์บางประเภทที่ เพิ่มขึ้น) ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างรายงานกำไร 1,250 ล้านบาท ลดลง 35% YoY และ 91% QoQ (ปริมาณขายที่ลดลงและไม่มีกำไรพิเศษ) กำไรสุทธิจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 1,485 ล้านบาท ลดลง 20% YoY (ปริมาณขายที่ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 22% QoQ (การดำเนินงานของของธุรกิจเยื่อและกระดาษที่ปรับตัวดีขึ้น)

แนวโน้ม

อุปสงค์ธุรกิจปิโตรเคมี, ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง, และและธุรกิจบรรจุภัณฑ์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2566 นอกจากนี้ เราคาดว่าแรงกดดันด้านต้นทุนจะผ่อนคลายลงต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2566 ซึ่งจะ หนุนอัตรากำไรของธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างและธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ดังนั้น กําไรหลักไตรมาส 3/66 ของ SCC จึงมีแนวโน้มขยายตัว YoY และ QoQ จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมาณการกำไรหลักลง 3% สําหรับปี 2566 มาอยู่ที่ 22,825 ล้านบาท และ 3% สําหรับระยะยาว เนื่องจากการปรับลดประมาณการของ SCGP เมื่อเร็วๆ นี้ แต่เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ขึ้น 1% มาอยู่ที่ 35,755 ล้านบาท เพื่อสะท้อนรายการพิเศษที่บันทึกในงบการเงินไตรมาส 2/66 เนื่องจากเราปรับลด ประมาณการกำไรหลัก ราคาเป้าหมายด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2566 ของเราจึงปรับลดจาก 368 บาท มาอยู่ที่ 360 บาท (WACC 8.5% และ Terminal Growth 2.0%)

คำแนะนำ

คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการที่ดีในไตรมาส 3/66 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อไป ปัจจุบัน SCC ซื้อ ขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2566 ที่ 1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1.6 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

 

- Advertisement -