บล.บัวหลวง:
Agro & Food – เล่นตามธีมเอลนีโญ่ (NEUTRAL)
ปรากฏการณ์เอลนีโญจะเกิดขึ้นในครึ่งหลังของปี 2566 และมีโอกาสเกิดขึ้น 90% ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1/67 เราคาดว่าราคากากถั่วเหลืองที่ปรับตัวลดลงในครึ่งหลังของปี 2566 จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการปศุสัตว์ (เราชอบ GFPT) ในขณะที่ต้นทุนปลาทูน่าที่สูงอาจกดดันกำไรของ TU ในไตรมาส 3/66
คาดปรากฏการณ์เอลนีโญจะ “รุนแรงปานกลาง” ในครึ่งหลังของปี 2566 ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/67
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ศูนย์พยากรณ์อากาศของสหรัฐฯ (CPC) ปรับเพิ่มคาดการณ์โอกาสเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญในไตรมาส 3/66 เป็น 96% จาก 94% ในเดือนมิ.ย. (อิงจากรายงาน El Niño-Southern Oscillation (ENSO) Diagnostic Discussion) นอกจากนี้ CPC ยังคาดโอกาสของการเกิดเอลนีโญ่ 96% ในไตรมาส 4/66 (แม้ว่าจะปรับลดการคาดการณ์โอกาสเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญในไตรมาส 1/67 จาก 93% เป็น 90%) ในรายงาน ฉบับเดือน ก.ค. ศูนย์ได้เพิ่มคาดการณ์โอกาสเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญใหม่ สําหรับเดือนก.พ.-เม.ย. 2567 ที่ 85% CPC คาดว่าปรากฏการณ์เอลนีโญจะยังคงอยู่ในครึ่งแรกของปี 2567 โดยประเมินความเป็นไปได้ 80% ที่สภาพอากาศจะมีผลกระทบปานกลาง (ดัชนี Niñ0-3.4 สูงสุดที่อย่างน้อย 1.0 เซลเซียส) โอกาส 50% ที่จะเกิดผลกระทบรุนแรง (อย่างน้อย 1.5 เซลเซียส) และโอกาส 20% มีผลรุนแรงมาก (สูงกว่า 2.0 เซลเซียส) ในช่วงเดือนพ.ย. 2566 ถึงมกราคม 2567
ผลกระทบต่อบริษัทกลุ่มปศุสัตว์
ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรงขึ้น ส่งผลต่อผลผลิตถั่วเหลืองที่สูงขึ้นในการเก็บเกี่ยวของสหรัฐฯ ในปี 2567 ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลให้ราคากากถั่วเหลืองลดลงในครึ่งแรกของปี 2567 สำาหรับข้าวโพด (ผู้ผลิตอาหาร สัตว์ของไทยส่วนใหญ่ใช้ข้าวโพดในประเทศ) สภาพอากาศที่แห้งแล้งในประเทศไทย อันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ อาจส่งผลให้ราคาข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นในปี 2567 แต่ราคาจะอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดปี 2565-2566 จากการพิจารณา เราคาดว่าราคากากถั่วเหลืองที่ลดลงจะกลบผลกระทบของต้นทุนข้าวโพดที่สูงขึ้น ดังนั้นราคาอาหารสัตว์จะลดลงในครึ่งแรกของปี 2567 เราชอบ GFPT ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไก่ มากกว่า BTG, CPF และ TFG เนื่องจากความไม่แน่นอนของอุปทานเนื้อหมู
ผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญต่อไทยยูเนี่ยน
ปรากฏการณ์เอลนีโญเกิดจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่อุ่นกว่าปกติในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตร เมื่ออุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลสูงขึ้น ปลามักจะว่ายน้ำลึกขึ้น ซึ่งส่งผลให้การจับปลายากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากราคาปลาทูน่าที่สูงขึ้น 2,000 เหรียญสหรัฐ/ตันในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 2566 ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ย 9 ปีในเดือน เม.ย.-มิ.ย. ที่ 1,436 เหรียญสหรัฐ/ตันอย่างมาก แม้จะมีการระงับใช้ Fish Aggregation Devices (FADs) ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. 2566 และราคาปลาทูน่ามีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อถูกระงับใช้ FAD แต่ TU ไม่คาดว่าราคาปลาทูน่าจะปรับตัวสูงขึ้นมากในไตรมาส 3/66 เนื่องจากฐานที่สูงในไตรมาส 2/66 ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อราคาเพิ่มขึ้นอย่างมากเหนือ 2,000 เหรียญสหรัฐ/ตัน อุปสงค์จะลดลง เนื่องจากลูกค้าจะชะลอการสั่งซื้อจากคาดการณ์ราคาปลาที่จะปรับตัวลดลงในอนาคต
