หลังต่อสู้กันยาวนาน ล่าสุด “ศาลอังกฤษ” ตัดสินให้ “นพพร ศุภพิพัฒน์” ผู้ก่อตั้ง และอดีต CEO ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ชนะคดีฉ้อโกง กับ “ณพ ณรงค์เดช” และ พวกรวม 14 คน และให้ชดใช้ค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย กว่า 30,000 ล้านบาท
สำนักข่าวบีบีซี รายงาน ศาลอังกฤษตัดสินเมื่อ 31 ก.ค. 2566 ให้ นายณพ ณรงค์เดช และ พวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 3 หมื่นล้านบาท แก่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) หลังถูกนายนพพรฟ้องในข้อหาสมคบกันชักจูงใจด้วยข้อมูลลวงให้ขายหุ้น WEH ส่วน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จำเลยที่ 10 และ นายอาทิตย์ นันทวิทยา อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) จำเลยที่ 11 รวมทั้งนางคาดีจา บิลาล ซิดดีกี จำเลยที่ 5 รอด
นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกฟ้องสำคัญคนอื่นๆ ในคดี ได้แก่ นายณพ ณรงค์เดช ลูกชายคนกลางของ นายเกษม ณรงค์เดช เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนนายเกษม ผู้เป็นบิดา ตกเป็นจำเลยที่ 14 และจำเลยที่ 15 คือ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา แม่ภรรยาของนายนพ และภรรยาของ พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจผู้ล่วงลับ และยังมี นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ กรรมการของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของ SCB และเจ้าของสำนักงานกฎหมายชั้นนำของประเทศ Weerawong, Chinnavat & Partners (WCP) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายณพ เป็นจำเลยที่ 13 และ นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการของ WEH เป็นจำเลยที่ 16
นีล แคลเวอร์ (Neil Calver) ผู้พิพากษาแห่งศาลพาณิชย์ (Commercial Court) ของอังกฤษ มีคำตัดสินเมื่อ 31 ก.ค. 2566 ว่านายณพและพวก (ยกเว้น จำเลยที่ 5, 10, และ 11) ร่วมกันกระทำละเมิดโดยมิชอบและต้องรับผิดร่วมกันตามมาตรา 432 ของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย และสั่งให้ชดใช้ความเสียหายรวมกันทั้งเงินค้างชำระและดอกเบี้ยรวมกันเป็นมูลค่าราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ จากที่นายนพพรฟ้องเรียกไป 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย มาตรา 432 ระบุว่า “ถ้าบุคคลหลายคนก่อให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยร่วมกันทำละเมิด ท่านว่าบุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น ความข้อนี้ให้ใช้ตลอดถึงกรณีที่ไม่สามารถสืบรู้ตัวได้แน่ว่า ในจำพวกที่ทำละเมิดร่วมกันนั้น คนไหนเป็นผู้ก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วย ซึ่งบุคคลผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการทำละเมิด ก็ให้ถือว่าเป็นผู้กระทำละเมิดร่วมกันด้วย
ในระหว่างบุคคลทั้งหลายซึ่งต้องรับผิดร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น ท่านว่าต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่โดยพฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉัยเป็นประการอื่น”
ฝ่ายโจทก์ มี 4 ราย ได้แก่
1) นายนพพร ศุภพิพัฒน์
2) บริษัท ซิมโฟนี่ พาร์ตเนอร์ส จํากัด
3) บริษัท เน็กซ์โกลบอล อินเวสต์เมนท์ส จำกัด
4) บริษัท ไดนามิค ลิ้งค์ เวนเจอร์ส จำกัด
ฝ่ายจำเลย มี 17 ราย (ผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร WEH, SCB และผู้บริหาร SCB) ได้แก่
1) นายณพ ณรงค์เดช
2) นางเอมม่า ลูอิส คอลลินส์ อดีต CEO ของ WEH
3) นายธันว์ เหรียญสุวรรณ อดีตผู้บริหาร WEH และ REC
4) นายอามาน ลาคานี อดีตผู้บริหาร WEH
5) นางคาดีจา บิลาล ซิดดิกี ภรรยานายลาคานี
6) บริษัท คอลัมม์ อินเวสต์เมนท์ส จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก
7) บริษัทเคเลสตัน โฮลดิงส์ จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก
8) บริษัท เอแอลเคบีเอส จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนที่สหรัฐอเมริกา มีจำเลยที่ 4 เป็นผู้รับผลประโยชน์หลัก
9) บริษัท โกลเด้น มิวสิค จำกัด บริษัทที่จดทะเบียนในฮ๋องกง
10) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
11) นายอาทิตย์ นันทวิทยา
12) บริษัท คอร์นวอลลิส จำกัด
13) นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ
14) ดร.เกษม ณรงค์เดช
15) คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา
16) นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้ง WEH
17) นายณัฐวุฒิ เภาโบรมย์ อดีต CFO ของ KPN Group ของตระกูลณรงค์เดช