บล.ไอร่า: 02/08/66

วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,550 / 1,545 แนวต้าน 1,560 / 1,570 คาดตลาดต่างประเทศจะติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ขณะที่ Dollar Index และ US BondYield เคลื่อนไหวบ่งชี้ตลาด เริ่ม Risk-off มากขึ้น / ปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการประชุม กนง.

Our View? “Clarity is coming”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,550 / 1,545 และแนวต้านที่บริเวณ 1,560 / 1,570 เรามองตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ คาดตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาด 2Q66 ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ รวมทั้งตัวเลข GDP สหรัฐ 2Q’66 แข็งแกร่ง สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ตลาดคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดมีโอกาสยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อต่างๆ ของสหรัฐยังอยู่ในภาพการชะลอตัวลงต่อเนื่อง แม้ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงตึงตัวก็ตาม แต่การรายงานตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐโดย ISM เดือน ก.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 46.4 ต่ำกว่าระดับ 50.0 และต่ำกว่าที่ตลาดคาด แต่เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างเมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า จากคําสั่งใหม่เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่การจ้างงานในโรงงานลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ คาดจะกระตุ้นคาดการณ์การยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของ FED สอดคล้องกับ CME FED Watch Tools ให้น้ำหนัก FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.50% ต่อไปจนถึงช่วง 1Q’67 บ่งชี้ว่าตลาดคาดการณ์ FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่จุดสูงสุดไปแล้วในการประชุม FOMC เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าหลังจากนี้ตลาดจะเริ่มให้ความสนใจกับการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ รวมทั้งถ้อยแถลงและการส่งสัญญาณต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ FED ว่าเป็นไปในทางเดียวกับที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ โดยวันนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ค. จาก ADP คาดจะออกมาที่ระดับ 1.90 แสนตำแหน่ง ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 4.97 แสนตำแหน่ง  อย่างไรก็ดีเรามองการที่ Dollar Index เริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้งล่าสุดอยู่ที่ระดับ 101.96 เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) ที่ปรับตัวขึ้นพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ ในภาพระยะสั้นล่าสุดรุ่นอายุ 10 ปีกลับขึ้นไปยืนเหนือ 4.00% สะท้อนตลาดกลับมาอยู่ในภาวะ Risk-off อีกครั้ง คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 81.37 ดอลลาร์/ บาร์เรล -0.43 ดอลลาร์ (-0.53%) เผชิญแรงขายทำกำไรบ้างหลังปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น – กลาง  อย่างไรก็ตาม เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันต่อตามคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบที่เราจะยังแข็งแกร่งจาก 1) เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งและคาดจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามคาดการณ์ก่อนหน้าของตลาด 2) แนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของ FED คาดจะส่งผลให้อุปสงค์นํ้ามันดิบฟื้นตัวได้มากขึ้น รวมทั้งยังกดดันทิศทางดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาน้ำมัน 3) แนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านการลงทุน และการบริโภคของจีนหนุนแนวโน้มการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มเติม เป็นปัจจัยหลักหนุนอุปสงค์น้ำมันดิบแข็งแกร่ง ขณะที่เรายังมองอุปทานน้ำมันดิบยังค่อนข้างตึงตัวจากการที่กลุ่ม OPEC+ นำโดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียยังลดอุปทานน้ำมันลงต่อเนื่อง เรามองเป็นปัจจัยบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (PTTEP, TOP และ SPRC) ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเรายังคงคาดตลาดยังมีปัจจัย Overhang จากการเมืองภายในประเทศ จากการจัดตั้งรัฐบาลที่ช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยเรามองความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล คาดจะส่งผลให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้า รวมทั้งการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุนจากภาครัฐและการกระตุ้นการบริโภคล่าช้าออกไปต่อ ลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ เป็นปัจจัย Overhang ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อย่างไรก็ดีการส่งสัญญาณเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยของคุณ ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 ส.ค. นี้คาดจะส่งผลให้ตลาดเริ่มพูดถึงแนวโน้มในการพรรคเพื่อไทยคาดจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลสําเร็จได้ในช่วงเวลาดังกล่าวหรือก่อนเวลาดังกล่าว มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป

อย่างไรก็ตามวันนี้เราให้น้ำหนักกับการประชุม กนง. ของธนาคารแห่งประเทศไทย คาดมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 2.25% หลัง ธปท. ส่งสัญญาณก่อนหน้าว่าแม้อัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาจะเริ่มชะลอตัวลงแต่อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ยังอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมาย ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคารได้บ้าง