บล.กรุงศรีฯ:
MAJOR CINEPLEX GROUP (MAJOR TB/ MAJOR.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | สื่อและสิ่งพิมพ์ |
หุ้น | MAJOR |
มูลค่าพื้นฐาน | 17.50 |
คำแนะนำ | BUY |
เรายังคงคำแนะนำซื้อ MAJOR แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17.50 บาท จากเดิมที่ 23 บาท เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มจะฟื้นตัวช้ากว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ MAJOR จะอยู่ที่ 161 ล้านบาทใน 2Q23F (+166% yoy และ 127% qoq) โดยจะดีขึ้นจากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ แต่หากกำไรใน 2Q23 เป็นไปตามคาด กำไรในงวด 1H23 จะคิดเป็นเพียง 35% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราเท่านั้น ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-24 ลง 31% เพื่อสะท้อนถึงค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น เรามองว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปี 2023 ที่ 3% เป็นอัตราที่ใช้ได้ และมองว่ายังมี upside อีกหากบริษัทนำกำไรจากการขาย MPIC มาจ่ายปันผล
คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq ใน 2Q23
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ MAJOR จะอยู่ที่ 161 ล้านบาท ใน 2Q23F เพิ่มขึ้นถึง 166% yoy และ 127% qoq จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากแทบทุกกลุ่มธุรกิจ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น เราใช้สมมติฐานสำคัญในประมาณการ 2Q23F ดังนี้ (i) รายได้ของทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้น 35% yoy และ 39% qoq โดยรายได้จากยอดขายตั๋วหนัง (48% ของรายได้ใน 1Q23 revenues) จะเพิ่มขึ้น 20% yoy และ 43% qoq เพราะมีโปรแกรมหนังเด็ดเข้าโรงฉาย อย่างเช่น Fast X, Guardians of the Galaxy และ Transformers ฯลฯ ในขณะที่รายได้จากยอดขายเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว (27% ของรายได้) จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 53% yoy และ 52% qoq ตามยอดขายตั๋วหนังที่แข็งแกร่ง เราคาดว่ารายได้จากค่าโฆษณาจะเพิ่มขึ้น 72% yoy และ 26% qoq จากการที่ผู้ชมกลับมาชมภาพพยนตร์ในโรงมากขึ้น (ii) อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 32.8% จาก 29.2% ใน 1Q23 และ 26.8% ใน 2Q22 นำโดยธุรกิจที่ margin สูงอย่างการขายเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว (GPM 56%) และโฆษณา (GPM 85%) เราคาดว่าสัดส่วน SG&A/ยอดขายจะลดลงเหลือ 24.4% จาก 27.8% ใน 2Q22 และ 25% ใน 1Q23 ทั้งนี้ เราคิดว่า MAJOR น่าจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้น MPIC ออกไปใน 2Q23 ซึ่งประมาณการกำไรใน 2Q23 ยังไม่ได้รวมรายการนี้เข้าไป
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-24 ลง 31%
เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q22 จะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H23F อยู่ที่ 235 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 35% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากผลการดำเนินงานใน 2H ของบริษัทมักจะแผ่วลงจากใน 1H เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลของโปรแกรมหนังที่เข้าฉาย ในขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ก็สูงกว่าที่เราคาดเอาไว้ก่อนหน้านี้เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมมาชมภาพยนตร์ในโรง ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2023 ลง 32% และปี 2024 ลง 31% เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น
คงคำแนะนำซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17.50 บาท จากเดิม 23 บาท
เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรลง เราจึงปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 17.50 บาท (จากเดิม 23 บาท) เรายังคงคำแนะนำซื้อ MAJOR เพราะอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลยังดีอยู่ โดยเราคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เกิดจากผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 3.1% ซึ่งหากบริษัทนำกำไรจากการขายหุ้น MPIC มาจ่ายปันผลทั้งหมดอาจจะทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลขยับขึ้นไปถึง 5% ได้