บล.ฟิลลิป:
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ – DELTA 2Q66 GPM ดีกว่าคาด
Key Point
2Q66 กำไร 4,668 ลบ. +9.5%y-y +29.2%q-q รายได้เติบโตจากส่วนธุรกิจ EV Power เป็นหลัก และทำ GPM ได้ดีขึ้น q-q จากสถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มผ่อนคลายบางส่วน ทำให้สามารถจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น และคาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องใน 2H66, ปี 66 คาดกำไรสุทธิ 17,640 ลบ +15.0%y-y ธุรกิจเติบโตได้ดี แต่ทางฝ่ายฯ มองว่ายังไม่มีความจำเป็นสำหรับการลงทุนระยะยาวในหุ้นที่ราคาเกินพื้นฐาน ยังคงคำแนะนำ “ขาย”
ส่วนธุรกิจเกี่ยวข้องกับ EV Power เติบโตได้ดี
รายได้เติบโตจากส่วนธุรกิจ EV power ยังเติบโต y-y และ q-q ที่มีโปรเจคใหม่ๆ จากลูกค้าฝั่ง US และ EU เพิ่มมากขึ้น ปันจุบันมี GPM ในส่วนธุรกิจนี้ 15.7% ดีขึ้น q-q สถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มผ่อนคลายบางส่วน ทำให้สามารถจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น และ GPM จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอีกใน 2H66 คาดว่าสัดส่วนรายได้จะเพิ่มเป็น 30% ของรายได้รวมในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่ 25% และจะสามารถส่งงานที่คงค้างได้ 100% ภายในปีนี้ ส่วนธุรกิจ Data center เติบโตปานกลางมี Application ที่เกี่ยวข้องกับ AI เป็นตัวผลักดันให้ 2Q66 เติบโต และ 2H66 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก GPM ดีขึ้น q-q ส่วนธุรกิจ Fan&Thermal เติบโตตามกลุ่มอุตฯ ยานยนต์เป็นหลัก แต่ด้วยปีก่อนมี backlog ค้างทำให้ส่งมอบได้เยอะ ทำให้ปีนี้ยังเติบโตอยู่ในระดับปานกลาง ส่วน Regional business ในส่วนของ telecom power system ที่มีสัดส่วน 60-70% ของสายธุรกิจนี้ ยังมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลง จากลูกค้าฝั่งยุโรปที่ชะลอการลงทุน และอาจหดตัวในปีนี้ ส่วนของ EV charger มีสัญญาณที่ดีขึ้น มีการร่วมมือกันในหลายๆ โครงการใน Southeast Asia แต่สัดส่วนรายได้ยังน้อยอยู่ไม่ถึง 5% ของสายธุรกิจนี้ ส่วนของ Automation ที่มีสัดส่วน 5% ของสายธุรกิจนี้ ค่อนข้างไปได้ดีในไทย เวียดนามและอินเดีย ส่วนร กิจในอินเดีย เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำรายได้ 1H66 +67%y-y คาดยอดขายทั้งปียังคงเติบโตอยู่ใน ระดับนี้ และมีการปรับปรุง GPM ได้ดีขึ้น มีกำไรตั้งแต่ 1Q66 แล้ว และ 4Q66 จะสร้างโรงงานเฟส 2 แล้วเสร็จ มอง 2-3 ปีหน้ายังเติบโตได้อีกมาก
2Q66 GPM ดีกว่าคาด
รายได้รวม 35,840.45 ลบ. +28.0%y-y +11.0%q-q, ทำ GPM รวมได้ดีกว่าที่คาดที่ระดับ 23.4% ดีขึ้น q-q, SG&A ต่อรายได้รวม 10.6% เพิ่มขึ้นจาก 1Q66 สูงขึ้นตามยอดขาย ซึ่งยังอยู่ในแผนของบริษัทฯ ที่วางไว้ 10-11%, มีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น y-y และ q-q เนื่องจากมีการย้ายบัญชีการเรียกเก็บรายได้จากการเร่งรัดการส่งของให้ลูกค้า จากรายได้การให้บริการมาเข้าบัญชีรายได้อื่นๆ ในไตรมาสนี้ และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 233.77 ลบ. เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเข้ามาช่วยหนุนกำไรสุทธิที่ 4,668 ลบ.+9.5%y-y +29.2%q-q
ระดับสินค้ายังอยู่ในระดับสูง
ปัจจุบันระดับสินค้าคงเหลือยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ยังคงกังวลเรื่องการตั้งสำรองตามอายุสินค้า ทำให้การตั้งสำรองยังไม่ลดลง ปัจจุบันเร่งหา local sourcing ให้ได้มากขึ้น จะทำให้สามารถจัดการสินค้าได้ดีขึ้นและช่วยในเรื่องของการจัดการกระแสเงินสด
ข่าวจีนควบคุมแกลเลียม-เจอร์เมเนียม กระทบน้อย
จีนที่ควบคุมการส่งออก แกลเลียม เจอร์เมเนียม ทางบริษัทฯ ได้สอบถามไปยัง supplier แล้วกระทบกับส่วนธุรกิจ Data center บางส่วน แต่ไม่มาก เพราะ Delta ไม่มีส่วนที่ใช้วัตถุดิบนี้โดยตรง
คาด 3Q66 เติบโตได้ต่อ
3Q66 ยังเป็นส่วนธุรกิจ EV Power ที่เป็นตัวหลักในการเติบโตของ DELTA แต่ยังมีเรื่องของการตั้งสำรองตามอายุสินค้าอาจยังมีให้เห็นอยู่ และจะมีอีก 4 สายการผลิตที่จะเข้ามาเสริมรายได้ของส่วนธุรกิจ EV Power คาดยังทำรายได้และ GPM ได้ดีขึ้น q-q
โรงงานใหม่เริ่มผลิตได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า
ต้นปีหน้าจะมีโรงงานใหม่ที่เพิ่มอีก 2 สายการผลิต ในธุรกิจ EV Power และยังสามารถทยอยติดตั้งสายการผลิตตามโปรเจคของลูกค้าไปได้อีก 2-3 ปี
ปรับราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 65.75 บาท/หุ้น อิง P/E 46.5 เท่า
ทางฝ่ายมีการประเมินราคาหุ้นใหม่ โดยใช้ P/E เฉลี่ยของ DELTA KCE HANA ย้อนหลัง 1 ปี 46.5 เท่า +1STD เนื่องจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดฯ สูง และเป็นหุ้นที่สามารถทำอัตราเติบโตได้โดดเด่น ทางฝ่ายปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 เพิ่มเป็น 17,640.00 ลบ +15.0%y-y ปรับราคาพื้นฐานปี 2566 เพิ่มขึ้นที่ 65.75 บาท/หุ้น ผู้ลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุน แม้ธุรกิจจะเติบโตได้อย่างดี แต่ทางฝ่ายฯมองว่ายังไม่มีความจำเป็นสำหรับการลงทุนระยะยาวในหุ้นที่ราคาเกินพื้นฐาน ยังคงคําแนะนํา “ขาย”
ความเสี่ยง 1. ภาวะเศรษฐกิจและวิกฤติหนี้ในระบบเศรษฐกิจมหภาค 2. ความเสี่ยงการจัดหาวัตถุดิบและห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) 3. ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน