ถ้าเธอเลือกอยู่กับเขา / 1540-1555
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- เปิดต่ำแล้วค่อยๆ ฟื้น: คาด SET Index วันนี้เปิดต่ำแล้วค่อยๆ ฟื้น รับความชัดเจนทางการเมือง หลังวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงรับความกังวล Fitch ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของ Long term Government Bond ลงจาก AAA เป็น AA+ ทำให้มีแรงขายหุ้นออกมา นำโดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ใน Supply Chain การผลิตชิป คาดจะส่ง Sentiment ลบให้กับหุ้นในกลุ่ม ETRON ที่อยู่ใน Supply Chain เดียวกันในตลาดหุ้นไทย กดดันตลาดในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ปัจจัยการเมืองที่เริ่มเจอทางออก คาดจะเข้ามาหนุนตลาดระหว่างวัน โดยวันนี้พรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงรายชื่อพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเดินหน้าจัดตั้ง รัฐบาล ซึ่งการจัดตั้งในครั้งนี้จะไม่มีก้าวไกลในสมการ จึงเป็นที่น่าจับตาว่าจะมีพรรคขั้วอำนาจเดิมอย่างพลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติอยู่ด้วยหรือไม่ เนื่องจากในช่วงเลือกตั้ง เคยยืนยันจะไม่ร่วมงานกับขั้วอำนาจเดิม หากมีการดึงหนึ่งในสองพรรคที่กล่าวไปเข้ามาร่วมรัฐบาลจะยิ่งได้ความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น และ มองตลาดจะตอบรับในเชิงบวก แต่อาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวทางการเมืองของขั้วตรงข้ามในระยะถัดไป ขณะที่กนง. วานนี้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามตลาดคาด ชี้ความหนืดของเงินเฟ้อยังสูง จึงอาจเกิดการส่งผ่านต้นทุนทางราคาไปยังผู้บริโภค และปัญหา “เอลนีโญ” อาจเป็นตัวเร่งเงินเฟ้อในอนาคต การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงยังจำเป็นและอาจใกล้ถึงปลายทางการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว มองมีโอกาสที่ กนง. จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในครั้งถัดไป ยังเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) การเมืองชัดเจน: SIRI GULF STEC CK PR9 CPAXT CRC 2) กนง.ขึ้นดอกเบี้ย : KTB BBL KBANK 3) เก็งกำไรจบ 2Q66: ADVANC SC CPALL RATCH 4) Defensive : BCH BEM INTUCH BGRIM
ปัจจัยบวก
- เพื่อไทย ฉีก MOU 8 พรรค พร้อมแจงเดินหน้าตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล และจะเสนอ “เศรษฐา” ขึ้นเป็นนายก
- กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.25% ตามคาด พร้อมแจงเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวสู่ระดับศักยภาพ จึงจําเป็นต้องดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืน
- จีนออกมาตรการลดภาษีเพิ่ม หวังพยุงธุรกิจขนาดเล็กและครัวเรือนในชนบท เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ หลังชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย.
- จีนออกมาตรการลดภาษีเพิ่ม หวังพยุงธุรกิจขนาดเล็กและครัวเรือนในชนบท เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ หลังชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน เม.ย.
ปัจจัยลบ
- IMF ชี้เงินเฟ้อยังเป็นความเสี่ยงต่อตลาดการเงิน แบงก์ชาติตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด
- กกร. คาดภัยแล้งฉุดเศรษฐกิจ 53,000 ล้าน จึงต้องให้ความสําคัญต่อการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและผลกระทบต่อภาคการเกษตรในช่วงปลายปี 2566 ถึงครึ่งแรกของปี 2567 หลังพบปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วไทยอยู่ในระดับวิกฤติ
- สถานทูตจีนชี้มีกลุ่มไม่หวังดีใช้กองกำลังไซเบอร์ทำลายความร่วมมือไทย-จีน จับตาการเมืองในระยะถัดไปหากผู้สนับสนุนฝั่งก้าวไกลไม่พอใจ อาจมีการชุมนุมยืดเยื้อกดดันภาพรวมเศรษฐกิจภายใน
PICKS OF THE DAY
KTB BUY
- เป้าหมาย 21.00 / 21.50 แนวรับ 19.70 / 20.00
- ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น: จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อวานนี้ คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามในเร็ว ๆ นี้ และจะทำให้ KTB ได้ปรับประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้รายได้ดอกเบี้ยน่าจะเพิ่มขึ้นได้ต่อ
- ได้ประโยชน์จากรัฐบาลใหม่: KTB เป็นธนาคารที่มีใกล้ชิดกับรัฐจะได้ประโยชน์ ทำให้มีโอกาสได้สินเชื่อ รวมไปถึงรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้แอปเป๋าตังยังจะใช้เป็นตัวกลางในการส่งผ่านนโยบายทางการเงินต่าง ๆ ด้วย
STEC BUY
- เป้าหมาย 11.30 / 11.60 แนวรับ 10.30 / 10.50
- คาดรับ Sentiment บวก จากการเป็นหุ้นอิงการเมือง: หลังการเมืองคืบหน้า โดยมีโอกาสสูงที่จะพลิกขั้ว มองหุ้นเชื่อมโยงการเมืองจะรับ Sentiment บวก นอกจากนี้ จากสถิติการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก่อนได้นายก 1 เดือน กลุ่มรับเหมาก่อ สร้างเป็นกลุ่มที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 6%
- คาด 2Q66 มีโอกาสเติบโต y-y: จากในปีนี้เป็นปีแรกของการไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้มีโอกาสรับรู้ร้อยละของงานก่อสร้างแล้วเสร็จราบรื่นขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมี Backlog ราว 1.1 แสนลบ. ยิ่งหากการเมืองไทยคืบหน้า จะยิ่งช่วยหนุนให้ปีนี้จะมีงานประมูลเพิ่มมากขึ้น