KS Daily View 03.08.2023 >>> มองตลาดปรับตัวลงพักฐานต่อระยะสั้น รอพิจารณามติศาลรัฐธรรมนูญวันนี้และผลโหวตสภาเลือกนายกวันศุกร์ ประเมินกรอบซื้อขายวันนี้ 1,540/1,555 หุ้นแนะนำวันนี้ BLA KTB
สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้ ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA -0.98%, S&P 500 -1.38%, NASDAQ -2.17%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Consumer staples (+0.25%), Health care (+0.06%), ขณะที่ Information technology (-2.59%), Communication services (-2.07%), Consumer discretionary (-1.84%)
ในประเทศ: SET Index -5.78 pts. หรือ -0.37% ปิดที่ 1,550.28 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ DELTA (+0.88%), PTTEP (+1.88%), BAY (-1.56%), GULF (-0.50%) ขณะที่ BDMS (-2.61%), CPALL (-1.18%), CPN (-1.84%), EA (-2.42%)
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: มองดัชนีตลาดแกว่งตัวลงปรับฐานระยะสั้น คาดนักลงทุนรอพิจารณามติศาลรัฐธรรมนูญวันนี้และผลโหวตเลือกนายกวันศุกร์ มองกรอบซื้อขายวันนี้ที่ 1,545/1,560 จุด
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.) พรรคเพื่อไทยแถลงแยกทางกับพรรคก้าวไกลในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฏหมายมาตร 112 อีกทั้งพรรคการเมืองอื่นๆและสว.ไม่ยอมรับนโยบายของพรรคก้าวไกลในการแก้ไขกฏหมายดังกล่าว ดังนั้นเพื่อให้ได้รับเสียงสนับสนุนที่เพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงขอถอนตัวจากการร่วมมือและเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่โดยเสนอ นายเศรษฐา ทวีสินเป็นนายก
2.) ธปท.ปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps ตามคาดจาก 2.00% เป็น 2.25% มองธปท.ขึ้นดอกเบี้ยแม้เงินเฟ้อสุดต่ำเพียง 0.2% เนื่องจากเป็นการสร้าง policy space สำหรับการปรับดอกเบี้ยลงในอนาคต ประเมินกลุ่มธนาคารหลัก (BBL, KTB, SCB) เป็นหุ้นที่จะได้ประโยชน์จาก NIM ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
3.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 3bps. เป็น 4.07% โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายปรับตัวขึ้นไปถึง 4.12% ทำจุดสูงสุดนับแต่เดือน พ.ย. 2022 หลังรัฐบาลสหรัฐฯเตรียมออกพันธบัตรระยะยาวในตลาดแรกสูงกว่า U$1.03 แสนล้าน (อายุ 3 ปี 10 ปี และ 30 ปี) ในสัปดาห์หน้า เพื่อกู้เงินไปชดเชยการขาดดุลงบประมาณการคลังที่สูงขึ้นจากระดับ 3.7% ในปี 2022 เป็น 6.3% ในปี 2023 ซึ่งส่งผลให้ Fitch ปรับลด credit rating รอบล่าสุด นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลว่าเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง (ADP รายงานตัวเลข เดือนก.ค. ที่ 324k ตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 191k ตำแหน่ง) ทำให้นักลงทุนต้องการผลตอบแทนจากพันธบัตรเพิ่ม
4.) EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ (Crude oil inventories) ลดลงแรงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 17 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตลาดคาดว่าจะปรับลดลง 900,000 บาร์เรล อย่างไรก็ดีแม้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมาก แต่ราคาน้ำมันดิบช่วงข้ามคืนปรับตัวลดลงแรงจาก sentiment ตลาดเป็น risk off หลัง FITCH หั่น raing สหรัฐฯลง ส่งผลให้ค่าเงินดอล์ล่าร์ปรับแข็งค่าขึ้นเทียบทุกสกุลเงินและสินทรัพย์
5.) รัสเซียเผยพร้อมกลับมาเปิดการเจรจาข้อตกลง Black Sea Initiative อีกครั้งหากข้อกังวลที่ร้องขอได้รับการแก้ไขโดยเฉพาะในส่วนของการลดอุปสรรคหลายๆด้านสำหรับการส่งออกธัญพืชและปุ๋ยจากรัสเซีย ทั้งนี้สถานการณ์การเจรจากลับมาดูดีขึ้นหลังประธานาธิบดี Erdogan ของตุรกีเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากสภาวะอากาศที่มีฝนตกมากขึ้นในสหรัฐฯ ด้วย ส่งผลให้ราคาข้าวโพด, ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวลงต่ออีก 1.5%-2% วานนี้ มองเป็นบวกกับกลุ่ม F&B (GFPT, CPF, BTG, RBF)
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้
ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นต่อในกรอบ 1,535 – 1,560 จุด จากแรงหนุนของโอกาสที่ดอกเบี้ยโลกกำลังจะถึงจุดสูงสุดบนแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัว การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่กำลังจะได้รัฐบาลหลังประธานสภาส่งหนังสือแจ้งสมาชิกรัฐสภา นัดประชุม โหวตนายกฯรอบสาม 4 ส.ค. ทั้งนี้นักลงทุนเลือกให้น้ำหนักถึงโอกาสที่จะได้รัฐบาลที่มีนโยบายเป็นมิตรกับตลาดทุนมากกว่าที่จะกลัวความเสี่ยงกรณีเกิดความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล
หุ้นแนะนำวันนี้
Top pick: BLA (ราคาพื้นฐาน 56 บาท) ตลาดโดยรวม sentiment เป็นลบหลังสหรัฐฯถูกลดเรตติ้ง ส่งผลให้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น มองเป็นลบกับการลงทุนในหุ้นทั่วไปตัวอื่น แต่เป็นบวกกับ BLA ที่มีพอร์ตการลงทุนเน้นในพันธบัตรรัฐทำให้คาดรายได้ดอกเบี้ยจากการลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นจะมี backlog งานในมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 2 แสนล้านบาท ณ สิ้นปีนี้ สูงกว่าระดับสูงสุดเดิมเมื่อปี 2555 ที่ 1.18 แสนล้านบาท
Top pick: KTB (ราคาพื้นฐาน 24.75 บาท) มองเป็นธนาคารใหญ่ที่จะได้อานิสงค์บวกจากการขึ้นดอกเบี้ย โดย NIM ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นต่อ ด้านคุณภาพสินทรัพย์ก็ดูปลอดภัยกว่าเนื่องจากลูกค้าเป็นกลุ่มองค์กรและพนักงานรัฐ ด้าน valuation ยังไม่แพง ซื้อขายที่ PBV 0.7 เท่า ขณะที่คาด ROE ที่ราว 9%
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสบดี ติดตามประเด็นการเมืองของไทย โดยศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดแถลงมติ รับ/ไม่รับ วินิจฉัยคำร้อง ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 ที่ถูกใช้ในที่ประชุมสภา เมื่อ 19 ก.ค. ถือว่าเข้าข่ายการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ต่อด้วยช่วงบ่ายมีประชุมธนาคารกลางอังกฤษ ตลาดคาดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อ 25bps จาก 5.00% เป็น 5.25% เพื่อชะลอความร้อนแรงของแรงกดดันเงินเฟ้อ
- วันศุกร์ ติดตามผลโหวตนายกรอบ 3 ของไทยและตัวเลขสำคัญของฝั่งของสหรัฐฯเช่นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) สำหรับเดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 175k ตำแหน่ง เทียบกับที่ 209k ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า และตัวเลขอัตราค่าจ้างแรงงานต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (Average hourly earnings) สำหรับเดือน ก.ค. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 4.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.4% YoY และตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) สำหรับเดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 3.6% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า