คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันน้ี

คาดดัชนีฯ sideway แนวรับ 1640 / 1635 จุด แนวต้าน 1655 / 1660 จุด ทางเทคนิค หากดัชนีฯ สามารถปิดเหนือ 1657 จุดได้ จะเป็นสัญญาณซื้อเพิ่ม และมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1680 จุด

หุ้นแนะนำ พอร์ตหุ้นใหญ่ Big Tactical Play (SET100 Index) และพอร์ตหุ้นเล็ก Small Top Picks (Non-SET100 Index) โดยผลทดสอบในอดีตที่ผ่านมา พบว่าพอร์ตลงทุนดังกล่าวต่างให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด หุ้นแนะนำสาหรับพอร์ต Big Tactical Play ได้แก่ GULF TQM ESSO CENTEL IVL SCB SAWAD MINT TRUE และหุ้นแนะนำสำหรับพอร์ต Small Top Picks ได้แก่ SMPC TPIPL SPG

+ปัจจัยบวก:

1) จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงทำให้ศบค. มีแนวโน้มที่ผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม โดยจะมีการประชุมศบค. ชุดใหญ่ในวันศุกร์นี้ หากมีการผ่อนคลายเพิ่มเติมจะเป็นปัจจัยหนุนให้กำลังซื้อกลับมาฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด

2) FETCO เปิดเผยดัชนีความเช่ือมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มข้ึนและอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” สะท้อนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์    ”ร้อนแรง” ซึ่งกลับเข้ามาซื้อสุทธิหลายวันทำการก่อนหน้านี้

3) หุ้นกลุ่มโรงกลั่นมีโมเมนตัมบวกรับข่าวซาอุฯ และยูเออี เตรียมปรับลดราคาน้ำมันดิบไปเอเชียเดือน ต.ค. ลดลง 0.69- 1.3USD/barrel

-ปัจจัยลบ:

1) ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ ๆ กล่าวคือ ตลาดยังคงเก็งกำไรบนประเด็นเดิมๆ ซึ่งหากออกมาดีตามคาด ก็อาจจะไม่มีโมเมนตัมมากพอท่ีจะหนุนให้ตลาดบวกแรงเหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ในทางกลับกันเกิด Negative Surprise ตลาดมีแนวโน้มท่ีปรับตัวลงได้มากกว่า เมื่อเทียบกับตอนที่ปรับตัวข้ึนมา

2) ตัวเลขเงินเฟ้อซี่งออกมาหดตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ทำให้มีความเสี่ยงที่หลายๆ หน่วยงานจะมีการปรับประมาณการเงินเฟ้อเฉลี่ยของปี 2021 ลง ซึ่งจะเป็น sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยได้

ประเด็นอื่นๆ ท่ีต้องติดตามวันน้ี

  • Opportunity Day ได้แก่ BYD LHK NDR PROEN BAFS AGE UKEM
  • ตัวเลขดุลการค้า นำเข้า และส่งออกของจีน ประจำเดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาอ่อนตัวจากเดือนก่อนหน้า
  • อียูรายงานตัวเลข GDP Growth Rate ประจำ 2Q21 คาดว่าจะพลิกกลับเป็นบวกจาก 1Q21

Global Market Summary: วันทำการท่ีผ่านมา

– ตลาดหุ้นไทยปิดลบ: ดัชนีฯ เปิดบวกในช่วงเช้าก่อนที่จะเผชิญแรงเทขายตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะปิดตลาดไปที่ 1648.37 จุด ลดลง -1.69 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.83 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม -1.07% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ -0.69% กลุ่มธนาคาร -0.52% และกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค -0.25% หุ้นบวก >4% BANPU DELTA U B LANNA CGD AJA CAZ INSET ITD SDC XO SE AGE หุ้นลบ >4% RCL NEX AS MFEC WINMED

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดทองคำ และตลาดน้ำมัน WTI ปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการซื้อขายในวันท่ี 6 ก.ย. เนื่องในวันแรงงาน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +0.8% DAX +0.96% FTSE +0.68% เนื่องจากยอดสั่งซื้อโรงงานในเยอรมนีท่ีเพิ่มขึ้นเกินคาด และการคาดว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

ประเด็นสำคัญ

+ USD/THB: เงินบาทปิดตลาดวานนี้ท่ีระดับ 32.47 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.33-32.55 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการแข็งค่ามีจำกัด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มทำกำไรโดยการขายพันธบัตรรัฐบาลสูงข้ึนเป็น 3,300 ล้านบาท

+ USA: นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหุ้นบริษัทค้าปลีกของสหรัฐฯ จะได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วง back-to-school โดยโรงเรียนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ จะเริ่มเปิดการเรียนการสอนในชั้นเรียนอีกครั้ง นอกเหนือไปจากรัฐบาลลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีบุตร และมาตรการแจกเช็คเงินสดเพื่อช่วยเหลือครัวเรื่อนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
– China: ธนาคารของรัฐบาลจีนได้เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯในตลาดสปอตภายในประเทศเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา (3ก.ย.) โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดเงินหยวนให้อ่อนค่าลง เพื่อสนับสนุนการส่งออก

– Japan: ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนร่วงลงในเดือน ส.ค. ฮอนด้าลดลง -38.3% YoY นิสสันลดลง -10.6% YoY โตโยต้าลดลง -11.9%YoY จากปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์

– UK: อังกฤษ เผยดัชนี PMI ภาคก่อสร้างเดือน ส.ค. ร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน สู่ระดับ 55.2 ในเดือน ส.ค. แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. และลดลงจากระดับของเดือน ก.ค. ท่ี 58.7 เป็นผลมาจากการขาดแคลนอุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SMPC SPG GULF

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: IVL SPG ESSO

Derivatives: แนะเปิด Long S50U21 เก็งกำไรเมื่อย่อตัวบริเวณ 990-991 จุด

- Advertisement -