บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Thai Stanley Electric (STANLY TB) หุ้นปันผลดี แนวโน้มจ่ายปันผลสูงขึ้น
เพิ่มคาดการณ์ปันผล คงแนะนำ ซื้อ
เรามอง STANLY จะเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลมากขึ้น ด้วยอัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูง 9-10% ในปี FY67E-FY68E และแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีจะดีขึ้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานสูง และมีเงินสดในมือสูง 8.5 พันล้านบาท (56% ของมูลค่าตลาด) หุ้นมีมูลค่าถูก ซื้อขาย P/E ต่ำเพียง 8.3 เท่า (-1SD) P/BV 0.7 เท่า (-1SD) ด้วยกระแสเงินสดในรูป EBITDA สูง 3 พันล้านบาท ทำให้เราคาด STANLY จะเพิ่มอัตราเงินปันผลจ่ายเป็น 75% จากเดิม 40% ทำให้คาดเงินปันผลปี FY67E เท่ากับ 18 บาท คิดเป็น Yield ที่สูง 9.2% คงแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมาย 240 บาท บนฐานค่าเฉลี่ย10ปี Forward P/E 10.1 เท่า
ผู้บริหารคงเป้าแนวโน้ม FY67E จะเติบโต 5-10%
ผู้บริหารคงเป้าหมายยอดขาย FY67E (เม.ย. 2566 – มี.ค. 2567) จะเติบโต 5-10% แม้ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะปรับลดเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ปี 2566 ลงเหลือ 1.90 ล้านคัน เติบโต 1% จากเดิม 1.95 ล้านคัน เติบโต 3.5% เนื่องจากลูกค้าหลักๆ ยังวางแผนการผลิตตามเป้า รวมถึง STANLY ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ เช่น Mitsubishi – All New Triton ซึ่งเป็น Global model จะมีคำสั่งซื้อที่เร่งตัวมากขึ้น และในช่วงที่เหลือของปีค่ายรถจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีก 3 รุ่น รวมถึงรถจักรยานยนต์จะมีการเปิดตัวรถ รุ่นใหม่อีกหลายรุ่น นอกจากนี้จะมีการขายแม่พิมพ์ให้ลูกค้าเพิ่มซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้
แนวโน้ม FY2-4Q67E จะเติบโตดีขึ้น คงประมาณการ
ผลประกอบการ FY1Q67 (เม.ย. – มิ.ย. 2566) ค่อนข้างน่าผิดหวัง มีกำไรชะลอตัวลงเหลือ 315 ล้านบาท (-44%QoQ, -1%YoY) และต่ำกว่า Consensus 4.7% เนื่องจากลูกค้าบางรายมีปัญหาขาดแคลนไมโครชิพ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น และปกติไตรมาสแรกจะเป็นช่วงโลว์ซีชั้นและเป็นจุดต่ำสุดของปี ในขณะที่ FY2Q67E จะมีปันผลจากเงินลงทุนใน Asian Stanley และบริษัทอื่นๆ เข้ามาเสริมประมาณ 105-110 ล้านบาท เราคงประมาณการคาดยอดขาย 15,170 ล้านบาท เติบโต 5% อยู่ในกรอบล่างของประมาณการของผู้บริหารที่ประเมินยอดขาย จะเติบโต 5-10% และมีกำไรปกติ 1,816 ล้านบาท เติบโต 4%
เพิ่มคาดการณ์จ่ายปันผล
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา STANLY ได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ปีนี้ผู้บริหารระบุจะใช้เงินลงทุนไม่สูง คือน้อยกว่าพันล้านบาท ในขณะที่ STANLY มีเงินสดในมือสูง 8.5 พันล้านบาท เราคาดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในรูป EBITDA สูง 3 พันล้านบาท เมื่อหักปันผล 1.5 พันล้านบาท และหักเงินลงทุน 750 ล้านบาท จะหลือเงินสดสิ้นปีเพิ่มเป็น 9.25 พันล้านบาท ทำให้เราเพิ่มคาดการณ์อัตราการจ่ายปันผล เป็น 75% ของกำไร จากเดิม 40% คาด FY67E จะมีเงินปันผล 18 บาท คิดเป็น Yield ที่สูง 9.2%