บล.ทรีนีตี้:
ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ – TEGH
แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท / Upside/Downside +34% / Median Consensus 4.90 บาท
คาดกําไร 2Q66 อ่อนตัวแรง ส่วนแนวโน้ม 2H66 ยังค่อนข้างเหนื่อย
- เราคาดกำไร 2Q66 ที่ 20 ล้านบาท อ่อนตัว 81%QoQ และ 91%YoY
- รายได้จากธุรกิจปาล์มและธุรกิจพลังงานทดแทนยังค่อนข้างทรงตัว
- รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจยางอาจอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก เนื่องจากราคายางอ่อนตัว และปริมาณขายลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจในตลาดหลัก
- ปรับลดประมาณการกำไรปี 66-67 ลงเพื่อสะท้อนแนวโน้มธุรกิจยาง
- ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 4.20 บาท แต่ยังขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น แนะนำ “ถือ”
คาดกำไร 2Q66 อ่อนตัวค่อนข้างมาก หลังราคายางปรับตัวลง
เราคาดกำไร 2Q66 ที่ 20 ล้านบาท อ่อนตัว 81%QoQ และ 91%YoY โดยคาดรายได้จากธุรกิจยางอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก โดยคาดว่าปริมาณขายยางจะอ่อนตัวลงจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐฯ ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวช้ากว่าคาด แม้ว่าจะมีการปรับไปขายลูกค้าจากอินเดียมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถชดเชยได้ ขณะที่ราคาขายยางแท่งยังต่ำกว่า 50 บาท/กก. ลดลงราว 1-2 บาท/กก. ด้านรายได้จากธุรกิจปาล์มและธุรกิจพลังงานทดแทนยังค่อนข้างทรงตัว แต่ในภาพรวมธุรกิจยางยังทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 8.4% จาก 10.2% ใน 1Q66 ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบ QoQ ทำให้อาจเห็นขาดทุนจาก Fx เล็กน้อย จากเดิมที่มีกำไรใน 2Q65 และ 1Q66
แนวโน้ม 2H66 อาจไม่ฟื้นตัวดีอย่างที่มองไว้ก่อนหน้า
สำหรับแนวโน้ม 2H66 คาดธุรกิจยางจะยังฟื้นตัวได้ช้า เนื่องจากตลาดส่งออกหลักทั้งยุโรป สหรัฐ และจีน ต่างได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ แม้ว่าทางบริษัทจะพยายามปรับไปขายจากอินเดียมากขึ้น แต่น่าจะชดเชยตลาดหลักได้ยาก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจปาล์มยังจะเห็นการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับ 1H66 เนื่องจากจะเข้าช่วง High Season ของธุรกิจ บวกกับจะเห็นผลจากการติดตั้งหม้อนึ่งใหม่ที่จะแก้ปัญหาคอขวด และทำให้ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้นได้ ในภาพรวมการอ่อนตัวของธุรกิจปาล์มอาจทำให้กำไรปี 2566 อาจไม่ถึงประมาณการที่เราทำไว้เดิม เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลงราว 61% และ 46% จากประมาณก่อนหน้าลงเหลือ 280 ล้านบาท (-59%YoY) และ 452 ล้านบาท (+62%YoY)
ปรับราคาเป้าหมายลงสะท้อนประมาณการใหม่
เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 4.20 บาท อิง PER 10 เท่า แม้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงสะท้อนปัจจัยลบไประดับหนึ่งแล้ว แต่ยังถูกกดดันด้วยผลประกอบการในช่วง 2H66 ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้เราปรับคำแนะนำเป็นเพียง “ถือ” เนื่องจากราคาหุ้นระยะสั้นยังขาดปัจจัยหนุน
ความเสี่ยง: ความผันผวนของราคายางและปาล์มน้ำมัน