บล.พาย:
ADVANC Advanced Info Service PCL
EBITDA ครึ่งปีหลังจะดีขึ้น HoH
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”มูลค่าพื้นฐาน 249 บาท อิง 9.2xEV/EBITDA’23E (ค่าเฉลี่ย 10 ปี) กำไรปกติไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท (+8% YoY, +7% QoQ) ผลจากการปรับลดค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ผลประกอบการดังกล่าวสอดคล้องกับคาดการณ์ เราจึงยังคงประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2023 ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (+7%YoY) การประชุมนักวิเคราะห์ให้บรรยากาศกลางๆ ตอนนี้ยังรอการอนุมัติดีล TTTBB จาก กสทช. และคาดว่าการปิดดีลจะเลื่อนไปเป็นช่วงไตรมาส 3/23 หรือ 4/23 แทน นอกจากนี้ แม้จะมีฐานลูกค้าแพ็คเกจดาต้าไม่อั้นขนาดใหญ่ (25% ของลูกค้าบริการมือถือทั้งหมด) แต่ยังมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ที่ทรงตัว YoY และ QoQ ได้ เพราะภูมิทัศน์การแข่งขันที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ผู้บริหารยังคงเป้าหมาย EBITDA ปี 2023 ที่หลักหน่วยระดับต้นถึงกลาง แม้ครึ่งปีแรกจะโตต่ำที่ 2.7% YoY ก็ตาม โดยรวมแล้วบริษัทยังคงเน้นกลุ่มลูกค้ามูลค่าสูง (ลูกค้าประจำและทำกำไรได้) มากกว่าการเพิ่มจำนวนลูกค้ากลุ่มใดก็ได้ ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 4.0 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 18 ส.ค. 2023
การประชุมนักวิเคราะห์
- ดีล TTTBB ยังอยู่ระหว่างการรออนุมัติจาก กสทช. และคาดว่าการปิดดีลจะเลื่อนไปเป็นช่วงครึ่งหลังปี 2023 โดยเรายังคงสมมติฐาน upside ที่ 3%-14% จากดีลนี้ คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) จากประมาณการชุดเดิม
- แม้ TTTBB จะมีผลขาดทุน แต่บริษัทสามารถระบุถึงประโยชน์ร่วม และศักยภาพในการลดต้นทุน และเชื่อว่าผลขาดทุนดังกล่าวจะอยู่ในวงจำกัด หากดีลเข้าซื้อได้รับการอนุมัติ ปัจจุบันบริษัทกำลังรอผลการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ของ JASIF ในวันที่ 23 ส.ค. 2023 ที่ผู้ถือหน่วยจะตัดสินใจว่าจะยกเลิกสัญญาประกันค่าเช่าหรือไม่ (ราว 20% ของใยแก้วนำแสงที่เช่าอยู่ในปัจจุบัน)
- ผู้บริหารยังคงเป้าหมาย EBITDA ปี 2023 ที่หลักหน่วยระดับต้นถึงกลาง แม้ครึ่งปีแรกจะโตต่ำที่ 2.7% YoY ก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะไตรมาส 4/23 จะมีการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นตาม (แพ็คเกจที่ทำกำไรได้มากขึ้น) ขณะที่เราประเมินว่า EBITDA ทั้งปี 2023 จะโตเป็น 9.2 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY) ทั้งนี้ กำไรครึ่งแรกปี 2023 คิดเป็น 50% ต่อประมาณการ EBITDA ทั้งปีของเรา
- บริษัทไม่คิดว่า GULF (ผู้ถือหุ้น ADVANC ทางอ้อมในสัดส่วน 19%) จะคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม (tender offer) เพราะจะทำให้ดีลซับซ้อนยิ่งขึ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 249 บาท
มูลค่าพื้นฐานอิง 26.5xPE’23E ขณะที่เลือก ADVANC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโทรคมนาคมไทย เพราะศักยภาพการทำกำไรที่เหนือชั้น และความสามารถในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอนาคต
สรุปผลประกอบการไตรมาส 2/23
- กำไรปกติไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท (+8% YoY, +7% QoQ) หนุนจากการขยายตัวของ EBITDA และการปรับลด SG&A (SG&A ต่อยอดขายไตรมาส 2/23 ที่ 11.1% ไตรมาส 1/23 ที่ 12.1% ไตรมาส 2/22 ที่ 12.7%) นับเป็นผลประกอบการที่สอดคล้องคาดการณ์ของเรา
- ยอดขายไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY, -4% QoQ) ยอดขายหดตัว QoQ จากยอดขายมือถือที่ปรับลดลง เพราะช่วง low season ในไตรมาส 2/23 ส่วนรายได้บริการหลัก (มือถือ บรอดแบนด์ และลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มองค์กร) พบว่ามีรายได้โตเล็กน้อยเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY และ QoQ)
- ช่วงปิดไตรมาส 2/23 บริษัทมีลูกค้าบริการเครือข่ายมือถือที่ 45.3 ล้านราย (-1.88 แสนราย YoY, -8.05 แสนราย QoQ) ด้วย ARPU บริการเครือข่ายมือถือโดยรวมที่ 214 บาท (-0.7% YoY, +1.7% QoQ) แม้ฐานลูกค้าจะลดลงเยอะ แต่หลักๆ มาจากกลุ่มแพ็คเกจที่ไม่ค่อยทํากำไรหรือกลุ่มลูกค้าชั่วคราว (นักท่องเที่ยว คนเข้าเมือง ฯลฯ) ทำให้ ARPU ยังโตได้แม้จำนวนลูกค้าจะลดลง ทั้งนี้ รายได้บริการหลักออกมาอยู่ที่ราว 3.0 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY และ QoQ)
- EBITDA margin ไตรมาส 2/23 โต 2.3ppts YoY เป็น 52.2% (+3.7ppts QoQ) นอกจากจะลด SG&A ลงได้ก้อนใหญ่ บริษัทยังสามารถรักษาต้นทุนอื่นๆ ในระดับเดิมและกระตุ้นรายได้บริหารหลักได้ไปพร้อมๆ กัน
คงมูลค่าพื้นฐาน 249 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 249 บาท เพราะผลประกอบการครึ่งแรกปี 2023 ออกมาสอดคล้องกับคาดการณ์ของเรา ควรบันทึกว่าประมาณการของเรายังไม่รวมดีล TTTBB เข้ามา
Revenue Breakdown
รายได้ของบริษัท มาจาก 3 ธุรกิจหลัก:
(1) บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือคิดเป็น 63% ของรายได้ปี 2022 บริษัทมีผู้ใช้บริการทั้งหมด 46 ล้านรายทั่วประเทศ โดยมีผู้ใช้บริการที่ชำระล่วงหน้า (ระบบเติมเงิน) คิดเป็นสัดส่วน 73% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นผู้ใช้บริการแบบชำระภายหลัง (แบบระบบรายเดือน) ธุรกิจบริการเครือข่ายมือถือมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) โดยรวมที่ 213 บาท นอกจากนี้ ย้งยอดขายของ SIM และอุปกรณ์มือถือ ซึ่งโดยปกติจะรวมอยู่กับบริการหรือเสนอให้กับลูกค้าแยกต่างหากมีสัดส่วน 21% ของรายได้ทั้งหมด
(2) บริการอินเตอร์เน็ตความเร็ว (FBB) สูงคิดเป็น 5% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งบริษัทให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการส่งสัญญาณอื่นๆ บนเครือข่ายใยแก้วนำแสงของบริษัท ในปัจจุบันบริษัทมีผู้ใช้บริการ 2.2 ล้านราย มี ARPU โดยรวมที่ 407
(3) ธุรกิจดิจิตอลเซอร์วิสเป็นส่วนที่เหลืออีกราว 10% ซึ่งแบ่งเป็นธุรกิจแพลตฟอร์มวิดีโอ บริการคลาวด์สำหรับธุรกิจ บริการ อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ดาต้าเซ็นเตอร์ และบริการเช่าอุปกรณ์อื่นๆ