ตลาดหุ้นวันนี้

  • แกว่งตัวเองทางลง รอปัจจัยใหม่: ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ เสี่ยงเคลื่อนไหวปรับตัวเองทางลง ด้วยถูกกดดันจาก Sentiment ตลาดต่างประเทศ และการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก กอปรกับ SET Index ปรับตัวขึ้นมาเกือบ 140 จุด ในเวลาเพียง 15 วันทำการ จึงเกิดแรงขายทำกำไรออกมา และราคาหุ้นหลายตัวที่ตอบรับแผนการเปิดเมืองราคาเริ่มปรับตัวขึ้นมาสูง ทำให้เกิดการเวียนกลุ่มเล่นไปยังหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หรือหุ้นขนาดเล็กอีกครั้ง จึงคาด SET Index วันนี้ จะแกว่งตัวอิงทางลงเป็นหลักในกรอบระหว่าง 1625-1640 จุด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1620 และ 1600 จุด ตามลำดับ ภาพรวมยังมองเป็นการ “ย่อเพื่อขึ้นต่อ” กลยุทธ์การลงทุนเน้น “ซื้อสะสม” หุ้นเปิดเมือง ที่บริเวณแนวรับ หรือเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
  • ตลาดหุ้นต่างประเทศยอดตัว ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า: วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐนำโดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเรื่อง 1) ผลกระทบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า มีโอกาสจะทำให้เศรษฐกิจทั้งสหรัฐและโลกชะลอตัวลง สอดคล้องกับการหั่นเป้า GDP สหรัฐของ Goldman Sachs ซึ่งได้ออก มาปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้จากเดิม 6.0% เหลือ 5.7% อีกทั้งยังปรับคาดการณ์อัตราการว่างานปีนี้ขึ้นมาเป็น 4.2% จากเดิม 4.1% หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐสัปดาห์ก่อนต่ำกว่าคาดการณ์ และ 2) การทำ QE Tapering ของ Fed ในช่วงปลายปี จะทำให้สภาพคล่องหดหาย ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น และดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง
  • ราคาน้ำมันดิบโลก WTI ปรับตัวลงต่อเนื่อง: วานนี้ราคาน้ามันดิบล่วงหน้า WTI ปิดปรับตัวลงอีก 1.4% มาที่ 68.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ยังคงเป็นผลต่อเนื่องจากการที่ซาอุดิอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันดิบทุกเกรดให้กับลูกค้าในเอเชียลงอย่างน้อย 1 ดอลลารื/บาร์เรล ในเดือนต.ค.64 รวมถึงการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ
  • FundFlow ไหลออกระยะสั้น: นักลงทุนต่างชาติเริ่มพลิกสถานะกลับมาขายสุทธิ 2 วันทำการติดต่อกัน และเงินบาทไทยเริ่มอ่อนค่า หลังก่อนหน้านี้แข็งค่าต่อเนื่องตามกระแส FundFlow ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ทางฝ่ายยังมองว่าเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลออกขณะนี้ ยังมีปริมาณน้อยเทียบกับช่วงที่เข้ามาก่อนหน้า และเป็นการขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อปรับพอร์ตการลงทุน ภายหลังจากที่ SET Index ทำจุดสูงสุดใหม่เท่ากับระดับก่อนวิก ฤต COVID-19 หลังจากนี้เชื่อว่าหากประเทศไทยเปิดเมืองได้ตามเป้าหมายในระยะท่ี 2 และ 3 รวมถึงการเปิดประเทศตั้งแต่ ต.ค. 64 เป็นต้นไป Fund Flow ต่างชาติจะยังคงอยู่และกลับเข้ามาต่อเนื่องภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

Picks of the day

CK BUY

  • ปัจจัยเร่งเริ่มมา: เดือนต.ค.เริ่มมีการเคลื่อนไหวของงานประมูล โดยคาดมีการออก TOR โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง 78 พัน ลบ. และ Motorway เอกชัยบ้านแพ้ว 20 พันลบ และทราบผลประมูลใน 4Q64
  • ได้เวลาสะสมก่อนข่าวมา: ราคาหุ้นรับเหมาก่อสร้างยังปรับขึ้นไม่มาก ปัจจัยเร่งการประมูลในเดือน ต.ค. น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเก็งกำไรไปถึงช่วงที่มีการประกาศผลประมูล โดย CK เป็นบริษัทที่เป็นตัวเต็งที่จะได้งานเหล่านี้ด้วย

WICE BUY

  • การส่งออกยังเติบโตดี: การส่งออกของไทยยังคงดีต่อเนื่อง โดยเดือน ก.ค. ธปท. แจ้งงออก +21.7% ฟื้นตัวตามประเทศคู่ค้าหลักอย่างจีน ที่ประกาศนำเขา้ /ส่งออกโตดีกว่าคาด และเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัว
  • 2H64 เป็น high season: ตามการนำเข้า/ส่งออก ช่วงปลายปี อีกทั้งค่าระวางยังสูง ทั้งขนส่งทางเรือ และทางอากาศ ส่วนขนส่งข้ามพรมแดนของ ETL ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และยังถือหุ้น ETL เพิ่มเป็น 51% คาดกำไร 2H64 จึงดีกว่า 1H64 และอาจมีความคืบหน้า M&A หนุนเพิ่ม
- Advertisement -