DailyView

ประเมิน SET INDEX เสี่ยงปรับฐานลงกรอบ 1627 – 1635 วานนี้เริ่มเห็นแรงขายออกมาอย่างมีนัยยะ และเป็นแรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่ อย่างสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ ถือเป็นสัญญาณเชิงลบที่เริ่มเกิดขึ้นประกอบเผชิญอีกแรงกดดันจากการปรับฐานลงของ Dow Jones 0.76% กังวลการแพร่ระบาดสายพันธุ์ DELTA จะกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันคาดมีแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมัน (PTT PTTEP) หลังราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐาน 0.7% ทั้งนี้อีกสัญญาณที่ควรจับตาคือค่าเงินบาทที่อ่อนค่าติดต่อ 5 วันทำการ ซึ่งเราตั้งข้อสังเกตุว่ารอบนี้เงินบาทกับนักลงทุนต่างชาติมีทิศทางสอดคล้องกันชัดเจน ดังนั้นหากเงินบาทยังเดินหน้าอ่อนค่าต่อเนื่อง อาจกระตุ้นแรงขายต่างชาติให้เกิดขึ้น ส่งแรงกดดันมายัง SET INDEX แต่การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออก (ASIAN HANAKCE TU) มองเป็นกลุ่มน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะสั้น ส่วนการปรับฐานของ SET INDEX สอดคล้องกับที่เราแนะมาสักพักว่า Upside จะเริ่มจำกัด เพราะตอบสนองต่อข่าวดีไปแล้ว แต่การปรับฐานจะเปิดโอกาสสะสมสำหรับคนลงทุนระยะกลาง เพราะมองไปยังสถานการณ์ข้างหน้ายังเต็มไปด้วยปัจจัยบวกจากการควบคุมติดเชื้อได้ดี และทยอยเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ปีหน้าจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าปีนี้ พร้อมกับมีลุ้นในการเปิดรับต่างชาติ

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นกลับมาเน้นกลุ่มส่งออก (ASIAN HANAKCE TU) ตามปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่ารวมถึงกลุ่มที่เห็นแรงซื้ออย่างสื่อสาร (ADVANC) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง – ยาว การปรับฐานแนะใช้เป็นโอกาสสะสม โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CRC) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) ร้านอาหาร (M)

StockPick

ASIAN (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 22 บาท) คาดกำไร 3Q21 ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งที่ดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วง 2H21-1Q22

AMATA (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 20.8 บาท) กำไรช่วง 1H21 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 32% ของกำไรทั้งปี ที่ 1,353 ลบ. อย่างไรก็ตาม หากโอนที่ดินที่เวียดนามกว่า 200 ไร่มาได้ จะทำให้กำไรในช่วง 2H21 เติบโตอย่างมาก

- Advertisement -