กังวลอสังหาฯจีน ส่วนการเมืองในประเทศยังไม่แน่นอน 1,505 – 1,522 จุด / Top pick บ่าย BBL

Phillip Strategist Comments

  • ดัชนี SET Index ภาคเช้าแกว่งตัวแคบ โดยปิดภาคเช้า +0.16 จุด (+0.01%) ไปอยู่ที่ 1,518.60 จุด โดยตลาดช่วงเช้าฝั่งเอเชียถูกกดดันจากฝั่งจีนที่เผยข้อมูลอ่อนแอทั้ง CPI เดือน ก.ค. ต่ำกว่าครั้งก่อนสู่ -0.3%y-y และ PPI ก.ค. ต่ำกว่าคาดสู่ -4.4%y-y นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากบริษัท Country Garden ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาฯ อันดับ 6 ของจีนไม่จ่ายอัตราดอกเบี้ยตามกำหนดแก่นักลงทุน ทำให้กังวลภาคอสังหาฯของจีนว่าอาจตามรอยกรณี China Evergrand ส่วนฝั่งสหรัฐหลัง Moody’s ลดเครดิตธนาคารขนาดกลาง-เล็ก 10 แห่ง จากความกังวลด้านการแข่งขันอัตราดอกเบี้ยและการบริหารหนี้สิน ขณะที่ในประเทศยังถูกกดดันจากการเมือง หลังเพื่อไทยรวบรวมเสียงจาก 9 พรรคร่วมได้เพียง 238 เสียง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งรัฐบาล
  • มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET ภาคบ่ายจะแกว่งตัวลง แรงกดดันส่งผ่านจาก 1) ตลาดจะกังวลภาคอสังหาฯในจีน หลังกรณี Country Garden ไม่จ่ายดอกเบี้ยแก่นักลงทุนอาจลุกลาม ขณะที่ 2) การเมืองในประเทศจะยังกดดัน โดยทางฝ่ายคาดมีโอกาสที่เพื่อไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว. ไม่ครบจำนวนที่จะจัดตั้งรัฐบาล หากเพื่อไทยปัจจุบันสามารถรวบรวมเสียงจากสูตรใหม่จัดตั้งพรรคได้เพียง 238 เสียง นอกจากนี้การที่ฉีก MOU ร่วมกับพรรคก้าวไกลไปแล้ว จึงยากที่จะร้องขอให้ก้าวไกลโหวตนายกที่มาจากเพื่อไทยให้ และทางทำให้แนวโน้มการเมืองไทยถึงทางตัน ปัจจัยดังกล่าวกดดันต่อความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย และทางฝ่ายยังกังวลต่อปีงบประมาณ 2567 ที่อาจล่าช้า สำหรับแรงพยุงดัชนียังมองมาจาก กลุ่มธนาคาร ที่ยังได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น, กลุ่มพลังงาน ยังได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่คาด 2H66 จะฟื้นตัวตามอุปสงค์และฤดูกาล กอปรกับอุปทานที่ยังตึงตัวหลัง OPEC+ คงการลดกำลังผลิตน้ำมัน 3.66 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปถึงสิ้นปี 2567 และยังคาดหวังต่องบบริษัทจดทะเบียน 2Q66 ในช่วงโค้งสุดท้ายจะช่วยพยุงดัชนี
  • Top pick: BBL ทางฝ่ายคาดว่า กนง.จะมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อีก 1 ครั้ง สู่ระดับ Terminal Rate ที่ 2.50% ซึ่งจะช่วยหนุนให้บริษัทตอบรับ Sentiment ต่อผลตอบแทนจากดอกเบี้ยให้เติบโตต่อไปในช่วง 2H66 ขณะที่แนวโน้ม NPL ที่ลดลงจาก 1Q66 ที่ 3.1% สู่ 2Q66 ที่ 2.9% ทางฝ่ายมองจะช่วยลดแรงกดดันด้านการตั้งสำรอง NPL ระยะถัดไป สำหรับงบฯ งวด 2Q66 สามารถทำกำไรได้ 1.13 หมื่น ลบ. (+62%y-y,+12%q-q) ซึ่งเป็นระดับที่ New High และเป็นสะท้อนของการเติบโตของสินเชื่อ

หุ้นแนะนำบ่ายนี้ PTTGC, ERW

 

 

- Advertisement -