คืนนี้รอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบ 0.54% บรรยากาศซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากมีรายงานว่าประชาชนในสหรัฐฯ เป็นหนี้บัตรเครดิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.6% จากสต็อกเบนซินที่ลดลงสูง
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมาจีนรายงานเงินเฟ้อหรือดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค.-0.3%YoY แต่ดีกว่า Bloomberg ประเมินไว้ที่ -0.4%YoY อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้ผลิตออกมาที่ -4.4%YoY แย่กว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4%YoY บ่งชี้ถึงการอ่อนแรงของเศรษฐกิจจีน สะท้อนผ่านอุปสงค์ที่ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ 5.8 ล้านบาร์เรลสูงกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.8 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินหายไป 2.6 ล้านบาร์เรล ลดลงเยอะกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 6 หมื่นบาร์เรล ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ Brent เมื่อคืนปรับตัวขึ้นอีก 1.6% ระยะสั้นมองเป็นบวกต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และโรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
ส่วนคืนนี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือน ก.ค. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ 3.3%YoY หากต่ำกว่าคาดมองเป็นบวกระยะสั้นต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในระยะถัดไปมีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อสหรัฐฯจะเริ่มทรงตัวหรือปรับลดลงได้ยากตาม ฐานราคาน้ำมันดิบที่เปลี่ยนไป หากอิงราคาน้ำมันดิบ BRT ล่าสุดที่ 87.5 $ / บาร์เรล จะติดลบราว 16%YoY แต่หากราคาน้ำมันดิบทรงตัวที่ 80 – 85 $ / บาร์เรล จนถึง เดือน ก.ย. จะทำให้การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน BRT เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนติดลบเพียง 0.5%YoY ถือเป็นความเสี่ยงของตลาดที่รออยู่ช่วงถัดไป โดยเฉพาะดอกเบี้ย FED ที่จะค้างไว้ระดับสูง ซึ่งจะกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจ
สำหรับ SET INDEX แม้วานนี้จะปิดบวกได้ 0.65% แต่ยังเชื่อว่ามี Upside ที่จำกัด ผลจากตลาดรับรู้ปัจจัยบวกไปมากแล้ว ขณะที่ช่วงถัดไปยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง โดยวันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1520 – 1540 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะลดพอร์ตการลงทุน ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเลือกกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) โรงพยาบาล (BDMS) อาหาร (TU) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท) ไตรมาส 3/23 ยังเป็นบวกจากแนวโน้มปริมาณขายที่ปรับดีขึ้น โดยผู้บริหารให้แนวทางไว้ที่ 470kBOED (+ 6% QoQ) ขณะที่ราคาขายก็มีโอกาสปรับสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบที่ขึ้นไปแตะ US$84/บาร์เรลในเดือน ก.ค. หรือขึ้นไปกว่า US$6.0/บาร์เรลจากค่าเฉลี่ยในไตรมาส 2/23 ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นช่วงล่าสุดเป็นผลจากการที่ OPEC+ ขยายกรอบการลดปริมาณผลิตไปถึงเดือน ส.ค (ลด 5.2 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็น 5% ของอุปทานโลก
BJC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท) กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ขณะที่กำไรปกติทรงตัว YoY ที่ 1.16 พันล้านบาท (-4%QoQ) สอดคล้องกับที่เราและ Bloomberg consensus คาด กำไรที่ทรงตัว YoY เป็นเพราะการหักลบกันระหว่างผลงานที่แข็งแกร่งในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (BigC) และกำไรที่ลดลงในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ส่วนปัจจัยบวกสําคัญของหุ้นคือการจดทะเบียน BigC เข้าตลาดในปี 2023 ขณะที่การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อยู่ที่ 1%-3% ในเดือนก.ค. 2023 จาก 4.8% ใน 2023