ดีแล้วแต่ยังไม่พอ /1520-1535 มุม

มองตลาดหุ้นวันนี้ 

  • คาด SET Sicleways : หลังพรรคเพื่อไทยแถลงรวมเสียง 9 พรรคได้รวม 238 เสียงแล้ว โดยยังยืนยันได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง แต่ในปัจจุบันจำนวนเสียงที่ได้ยังไม่ถึง 250 ทำให้แม้มีความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังเป็นประเด็น Overhang ต่อในส่วนของการจับขั้วกับหนึ่งในพรรคขั้วอำนาจเดิมหรือไม่ เพื่อให้ได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ส. และ ส.ว.ให้เพียงพอต่อการขึ้นเป็นนายก ทางฝ่ายมองทางเลือกดังกล่าวยังสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่กาเลือกพรรคเพื่อไทยบางส่วน  ทำให้อาจเป็นไปได้ยากที่จะเดินหน้าจับขั้วกับพรรคขั้วอำนาจเดิม  ความไม่ชัดเจนทางการเมืองยังมีจึงมองยังกดดันภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยต่อ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแตะ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางการให้ข้อมูลจาก EIA ว่าการผลิตของสหรัฐ ในสัปดาห์ก่อนแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ที่ 12.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ยังไม่เพียงพอต่ออุปสงค์ภายในประเทศ สะท้อนผ่าน สต๊อกน้ำมันเบนซินสหรัฐในช่วงเดียวกันที่ออกมาชะลอตัวต่ำกว่าที่คาด ขณะที่การลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ร่วมกัน ผลักดันราคาน้ำมันดิบให้ปรับตัวขึ้นต่อมองจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำวันนี้ คาดจะเป็นกลุ่มที่นำตลาด ขณะที่ปัจจัยภายนอกตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ คาด+3.3%y-y) กลับมาเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตาหลังตลาดสหรัฐเผชิญความกดดัน จากทั้งการปรับลดเครดิตเรตติ้ง และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น จึงเป็นที่น่ากังวลว่าหากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวดีนัก เฟดจะ เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ปัจจัยที่น่าติดตามอื่นๆ ได้แก่ การประกาศดัชนี MSCI และตัวเลข PPI สหรัฐ ในวันพรุ่งนี้
  • กลยุทธ์การลงทุน: 1) Energy Play : PTTEP TOP SPRC BCP IRPC 2) ดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL SCB KBANK 3) งบ 2Q66: CK STEC SPALI 4) Defensive: BDMS BCH 5) Selective: MTC KTC SAWAD

ปัจจัยบวก 

  • สํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปี 2566 สู่ระดับ 1.9% เพิ่มขึ้นจากระดับ คาดการณ์เดิมที่ 1.5% 
  • กระทรวงพาณิชย์เผย อินเดียระงับส่งออกข้าว เป็นโอกาสทองของตลาดข้าวไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แม้จะเผชิญกับภาวะปริมาณน้ำฝนน้อยในปีนี้ 
  • พรรคการเมืองเล็กระบุ รัฐสภาเตรียมโหวตนายกฯในวันที่ 18 ส.ค. เสริมความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล

ปัจจัยลบ 

  • ผู้ว่าธปท.รับส่งออกแย่ เศรษฐกิจจีนแผ่ว กดจีดีพีไทยปีนี้ จ่อปรับใหม่ต่ำกว่า 3.6% เกาะติดข้อมูลสภาพัฒน์ 21 ส.ค.นี้ 
  • แหล่งข่าวระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่าทำเนียบขาว เตรียมประกาศรายละเอียดของแผนการจำกัดการลงทุนในเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนบางประเภทในจีน และกำหนดให้ต้องแจ้งรัฐบาลเกี่ยวกับการลงทุนอื่น ๆ เพื่อขัดขวางการนำเทคโนโลยีสหรัฐไปพัฒนากองทัพจีน 
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานเติบโตช้าที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง 

PICKS OF THE DAY

KTC BUY

  • เป้าหมาย 46.50 / 50.50 แนวรับ 49.00
  • ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตดีกว่าอุตสาหกรรม: ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC นั้นเติบโตสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ไปแล้ว และมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรม โดยของ KTC อยู่ที่ 17.8%ในขณะที่อุตสาห กรรมอยู่ที่ 14% และช่วง 2H66 จะเป็นช่วง High season ของธุรกิจ ทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรน่าจะเติบโตได้ต่อ
  • NPL ยังต่ำและสำรองสูงมาก: KTC มี NPL ณ 2Q66 อยู่ที่เพียง 2% ในขณะที่มีสัดส่วนสำรองต่อ NPL ที่สูงมาก โดยมีอยู่ถึง 433.2%

SPRC BUY

  • เป้าหมาย 9.60 / 10.00 แนวรับ 9.15
  • ค่าการกลั่นพุ่ง: ค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้น 3Q66 โดยค่าการกลั่น SG GRM วันที่ 1 ก.ค.- 8 ส.ค. เฉลี่ย 7.8 USD/bbl เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ย 2Q66 กว่า 90% คาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป จากปัจจัยหนุนของส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลที่จะฟื้นตัวตามการท่องเที่ยวและการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเป็นหลัก
  • EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมัน : EIA คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ครึ่งปีหลังเฉลี่ยอยู่ที่ 86 USD/bbl เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมถึง 7 USD/bbl ทำให้บริษัทจะกลับมามีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน หนุนการเติบโตของกำไรบริษัทในครึ่งปีหลัง
- Advertisement -