บล.บัวหลวง:
Thaicom (THCOM TB/THCOM.BK)
THCOM – กำไรหลักต่ำกว่าคาด; คาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 ลดลง YoY
กําไรสุทธิสูงกว่าคาด; แต่กำไรหลักต่ำกว่าคาด
THCOM รายงานกำาไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% YoY และ 410% QoQ ถ้าหากไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 2/66 ได้แก่ 1) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิจํานวน 141 ล้านบาท (ซึ่งมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของ THCOM จํานวน 184 ล้านบาท กลบขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของลาวเทเลคอมจำนวน 43 ล้านบาท) 2) รายได้ค่าชดเชยจากข้อพิพาทกับบริษัทคู่สัญญารายหนึ่ง หลังคำตัดสินของศาลสูงสุดจำนวน 301 ล้านบาท และ 3) ค่าใช้จ่ายด้อยค่าสินทรัพย์จํานวน 4 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 19 ล้านบาท ลดลง 90% YoY และ 83% QoQ ทั้งนี้ เราได้ทำการปรับปรุงตัวเลขกําไรหลักรายไตรมาสของเราย้อนกลับไปจนถึงไตรมาส 1/65 โดยทำการแยกรายการกำไร /หรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของบริษัทร่วม คือ ลาวเทเลคอม ออกจากรายการส่วนแบ่งกําไรของบริษัทร่วม และให้ถือว่ารายการดังกล่าวเป็นรายการพิเศษ ซึ่งเรามองว่าจะเป็นการ สะท้อนตัวเลขทําไรหลักที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
กำไรสุทธิสูงกว่าที่เราคาดอย่างมากถึง 410% เนื่องจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจํานวนมาก และรายได้ค่าชดเชยที่บันทึกเพียงครั้งเดียว หลังจากที่ศาลสูงสุดได้มีคําพิพากษา (ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ในประมาณการของเราก่อนหน้านี้) ในทางตรงกันข้าม กำไรหลักต่ำกว่าที่เราคาดมากถึง 79% เนื่องจากรายได้จากการให้บริการเช่าช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 4 (หรือไอพีสตาร์) ต่ำกว่าที่คาด ยอดขายต่ำกว่าที่เราคาดมากถึง 14% เนื่องจากรายได้บริการไอพีสตาร์ที่ลดลงมากกว่าคาด ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ที่ 30% ถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดก่อนหน้าที่ 48% และกําไรหลังหักภาษีต่ำกว่าที่เราคาดมากถึง 68%
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรหลักที่ปรับตัวลดลงแรง YoY เนื่องจากรายได้บริการดาวเทียมที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ภาระดอกเบี้ยจ่ายและภาระภาษีจ่ายที่เพิ่มขึ้น และการพลิกกลับจากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทลาวเทเลคอมไปเป็นส่วนแบ่งขาดทุน ยอดขายในไตรมาสนี้ลดลง 14% YoY จากรายได้บรอดแบนด์ของลูกค้าไอพีสตาร์ที่ลดลง และลดลง 14% QoQ เนื่องจากฐานที่สูงในไตรมาส 1/66 จากการรับรู้รายได้จากค่าธรรมเนียมบริหารจัดการเกตเวย์ หรือสถานีภาคพื้นดินจากบริษัทโกลบอลสตาร์ในไตรมาส 1/66 และถ้าแบ่งแยกรายได้ตามรายประเทศ รายได้จากประเทศออสเตรเลีย อินเดีย และมาเลเชียลดลง 19% YoY 56% YoY และ 83% YoY ตามลำดับ รายได้จาก ธุรกิจดาวเทียมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 633 ล้านบาท ลดลง 14% YoY ในขณะที่รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY และ ณ สิ้นไตรมาส 2/66 อัตราการเช่าใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมเฉลี่ยของทั้งดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 อยู่ที่ 56% (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 55% ณ สิ้นไตรมาส 1/66) ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 15% YoY เนื่องจากค่าธรรมเนียมวิชาชีพด้านกฎหมายและค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้ม
เราคาดกำไรหลักไตรมาส 3/66 ที่ 40 ล้านบาท ลดลง 67% YoY (เนื่องจากรายได้จากธุรกิจดาวเทียมที่ลดลง YoY ถ้าเปรียบเทียบกับฐานรายได้จากธุรกิจดาวเทียมที่สูงมากในไตรมาส 3/65 และต้นทุนบริการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY) ยอดขายในไตรมาส 3/66 คาดว่าจะลดลง 17% YoY เนื่องจากอัตราการใช้งานของลูกค้าดาวเทียมไอพีสตาร์ที่คาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของดาวเทียมดวงใหญ่ดวงใหม่ที่ตำแหน่งวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก การปิดยอดจองล่วงหน้า (presales) ไปได้ถึง 50% กับ Eutelsat Asia Pte Ltd จะส่งผลให้ดาวเทียมดวงใหม่นี้ถึงจุดคุ้มทุนก่อนการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3/70 ราคาเป้าหมายที่ 18 บาท/หุ้น ของเราสำหรับ THCOM ได้คำนวณรวมมูลค่าเพิ่มซึ่งประเมิน โดยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 2.2 บาท/หุ้น ของดาวเทียมดวงใหญ่ดวงใหม่ข้างต้นที่ตำแหน่งวงโคจร 119.5 องศาตะวันออกเข้าไปแล้ว แต่ยังคงไม่ได้รวมมูลค่าเพิ่มจากดาวเทียมดวงเล็กดวงใหม่อีก 2 ดวงที่คลื่นความถี่นี้ (ซึ่งเรามองว่าจะเป็นอัพไซด์ในอนาคตต่อ THCOM)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป
เนื่องจากกำไรหลักในไตรมาส 2/66 ที่ต่ำกว่าคาด เราจึงทำการปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2566 ลงอีก 35% (เหลือ 221 ล้านบาท) แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราทำการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ขึ้นอีก 164% (ไปเป็น 637 ล้านบาท) เพื่อสะท้อนรายได้ค่าชดเชยที่บันทึกครั้งเดียวข้างต้น และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น เราปรับลดราคาเป้าหมาย ซึ่งอิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินลด (DCF) ลงอีก 1.3% (เหลือ 18 บาท)
คําแนะนํา
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น THCOM เนื่องจากอัพไซด์ที่จะมาจากดาวเทียม 2 ดวงใหม่ที่เป็นดวงเล็กที่ตำแหน่งวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก