บล.ฟิลลิป:
OR: กำไรอ่อนตัวตามคาด แต่ค่าการตลาดยังดี
ซื้อ TP’67: 25.00
กำไร 2Q66 อ่อนตัวลงเป็นหลักจากธุรกิจ Mobility เนื่องจากค่าการตลาดและปริมาณการขายที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ภาพครึ่งปีหลังยังเป็นบวกจากค่าการตลาดที่ดีกว่าคาด รวมถึงธุรกิจ Lifestyle และ Global ยังมีแนวโน้มโตได้ดี ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 25 บาท
งบรวม | 2Q66 | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66 | 6M65 | % y-y |
กําไร | 2,756 | 2,975 | 6,568 | -58.0 | -7.3 | 5,731 | 10,413 | -45.0 |
EPS | 0.23 | 0.25 | 0.55 | -58.0 | -7.3 | 0.48 | 0.87 | -45.0 |
หมายเหตุ: กําไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 2Q66 กำไรอ่อนตัวตามคาด : กำไร 2Q66 ลดลงตามคาดเหลือ 2,756 ลบ. ลดลง q-q, y-y สาเหตุหลักจาก กลุ่ม Mobility ที่ปริมาณขายลดลงและค่าการตลาดลดลง โดยปริมาณขายน้ำมันลดลง 1.4% เนื่องจากลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ลดลงตามการกลับไปใช้ LNG ที่ราคาปรับตัวลงมา ด้านค่าการตลาดอ่อนตัวลงจาก 1.0 บาท/ลิตร เหลือ 0.96 บาท/ลิตร มากกว่าคาดที่ 0.92 บาท/ลิตร เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดเก็บเข้าเงินกองทุนน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด ในส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle โตได้ตามคาด โดยปริมาณการขายกาแฟอเมซอน เพิ่มขึ้นจาก 91 ล้านแก้ว เป็น 93 ล้านแก้ว รวมถึงกลุ่ม Global โตได้ค่อนข้างดีทุกประเทศ โดยปริมาณขายน้ำมันเพิ่มขึ้น 29.4% สาเหตุหลักจากการขายน้ำมันดีเซลในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น
- ยังแนะนำ “ซื้อ” : ภาพรวมครึ่งปีหลัง ทางฝ่ายยังคงมีมุมมองเป็นบวก โดยเฉพาะจากค่าการตลาดที่ระดับ 0.96 บาท/ลิตร เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนรูปแบบการเก็บเงินเข้ากองทุนค่อนข้างต่ำ รวมถึงคาดว่าธุรกิจ Lifestyle ยังโตได้จากการขายกาแฟอเมซอน และธุรกิจ Global ยังโตได้ตามปริมาณการขายน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 25 บาท