INSET สตรอง!โชว์รายได้ Q2/66 เพิ่มขึ้น 63% ลุยประมูลงานใหม่ธุรกิจ Data Center – Cloud 2,000 ลบ. บอร์ดใจป้ำสั่งจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.04 บาท/หุ้น
บมจ.อินฟราเซท (INSET) เปิดผลงานไตรมาส 2/2566 รายได้รวมแตะระดับ 711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากรับรู้รายได้จากงานในมือโดยเฉพาะธุรกิจ Data Center – Cloud สัญญาณดีต่อเนื่อง พร้อมกันนี้บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด อัตรา 0.04 บาทต่อหุ้น พร้อมกำหนดรายชื่อผู้ได้รับสิทธิวันที่ 25 ส.ค. นี้ ฟากบิ๊กบอส “ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต” ระบุครึ่งปีหลังประเมินมีโอกาสคว้างานใหญ่อีกเพียบ ลุยประมูลงานใหม่กว่า 2,000 ล้านบาท เผยกอด Backlog ไว้แล้วกว่า 1,200 ล้านบาท มั่นใจสนับสนุนผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่อง
นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท จำกัด (มหาชน) (INSET)เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 2/2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯมีรายได้รวม 711 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 276 ล้านบาท หรือ 63 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 435 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 42 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 476 ล้านบาท หรือ 69 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 687 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 66 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2566 มีปัจจัยมาจากการส่งมอบสินค้า ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ Trading Telecom & Hardware IT Equipment ทำให้มียอดขายสินค้าเพิ่มขึ้น ช่วยสนับสนุนรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด งานให้บริการก่อสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมรองรับ (5G) ,งานด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ Data Centerและรายได้ประจำ (Recurring Income) จากธุรกิจซ่อมบำรุง Data Center
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2566 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 30.35 ล้านบาท และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)ในวันที่ 25 ส.ค.2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 8 ก.ย. 2566
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 มั่นใจว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีงาน Data Center และงานระบบโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม (งาน 5G) เร่งขยายโครงการที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากความต้องการใช้ Cloud เพิ่มสูงขึ้น และผู้ประกอบการภาคเอกชนเอง ต้องการที่จะลงทุนขยาย Data Center ให้สอดคล้องกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ในปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) กว่า 1,200 ล้านบาท และมีโครงการที่รับรู้รายได้สม่ำเสมอ หรือ Recurring Income ได้นาน 3-5 ปี ซึ่งจะสนับสนุนความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯในระยะยาว”
นายศักดิ์บวรกล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลงานใหม่เพิ่มอีกหลายโครงการ มีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงาน จากการเร่งขยายตัวของผู้ประกอบการในด้านธุรกิจ งานระบบ 5G , Data Center และ Cloud โดยจะมีการทยอยประกาศผลการประมูลได้ภายในครึ่งปีหลัง ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่างานทั้งหมดซึ่งจะผลักดันการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี