SVT ครึ่งปีแรก รายได้ทะลุ 1 พันล้าน เติบโต 7.81% หลังยอดขายสินค้าผ่าน “ตู้เวนดิ้งฯ” บูม มั่นใจทั้งปี 66 ยอดขายมาตามนัด
SVT ประกาศผลงานครึ่งแรกปี 66 กวาดรายได้ 1,170.68 ล้านบาท โต 7.81% และกำไรสุทธิ 35.10 ล้านบาท แย้มครึ่งปีหลังโตต่อ รับเศรษฐกิจฟื้น-ท่องเที่ยวบูมขานรับช่วงไฮซีซั่น ลุยเดินหน้าเพิ่มตู้ Vending Machine สิ้นปีนี้ 17,000 ตู้ตามแผน ย้ำภาพรวมทั้งปี 2566 ผลงานโตเข้าเป้า-ยอดขายมาตามนัด
นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและขายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 585.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 14.78 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,170.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 35.10 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก เป็นไปตามแผนที่บริษัทตั้งเป้า หลังจากภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มาจากการเพิ่มจำนวนเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและขยายพื้นที่ให้บริการไปตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล สถานศึกษา ออฟฟิศ สำนักงาน โรงงาน ปั๊มน้ำมัน สถานีรถไฟฟ้า BTS, MRT, ARL สนามบิน สถานีขนส่ง ศูนย์แสดงสินค้า และคอนโดมิเนียม เพื่อให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตเร่งรีบและชอบความสะดวกสบาย Vending Machine ที่ทันสมัย มีสินค้าหลากหลาย มีระบบรับชำระเงินทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ จึงสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ต่อตู้ต่อวัน เพิ่มขึ้นจากในปี 2565
นายพิศณุ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) บริษัทฯประเมินว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก รับอานิสงส์จากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก คนไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น นับเป็นโอกาสของบริษัทฯ ที่จะสร้างยอดขายสินค้าผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจประเทศที่กลับมา ด้วยการเพิ่มจำนวนและจุดให้บริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติตามสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งชอปปิ้ง ตลอดจนพื้นที่ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดท่องเที่ยวต่าง ๆ รองรับการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว ตลอดจนการทำงานเชิงรุก เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของบริษัทที่มีโรงงานปรับปรุงสภาพและประกอบ (Refurbishment) เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของตนเองและมีสาขากระจายสินค้าครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 30 จังหวัด โดยมุ่งพัฒนาเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่ทันสมัยและสามารถจ่ายสินค้าได้หลากหลายประเภทอย่างต่อเนื่องในการตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยบริษัทมั่นใจว่าในปี 2566 จะสามารถขยายตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติได้ 17,000 ตู้ ตามกลยุทธที่กำหนด
“ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 บริษัทสามารถสร้างรายได้และการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นใจว่าการดำเนินงานในปีนี้จะมีทิศทางในทางที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาและผลักดันให้ผลการดำเนินงานโตตามเป้า พร้อมสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายพิศณุ กล่าว