BEAUTY โชว์รายได้ Q2/66 โต 60.25% เดินหน้าลุยธุรกิจครึ่งปีหลัง เร่งยอดขายทั้งใน-ตปท.
BEAUTY เผยผลงาน Q2/66 รายได้ 129.77 ล้านบาท โต 60.25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 19.33% จากไตรมาส 1/66 ครึ่งปีแรกรายได้รวม 238.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.14% ปัจจัยหนุนจากกำลังซื้อฟื้นทั้งในและต่างประเทศ ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังเดินหน้าปรับตัวขยายช่องทางจำหน่ายทุกมิติทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง
ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/66 บริษัทมีรายได้ 129.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 19.33% จากไตรมาส 1/66 ขาดทุนสุทธิ 2.77 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 89.28% ที่มีขาดทุนสุทธิ 25.80 ล้านบาท และ ขาดทุนลดลง 55.59% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่มีขาดทุนสุทธิ 6.23 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรกปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 238.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.14% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 193.69 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 9.00 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 68.67% ที่มีขาดทุนสุทธิ 28.73 ล้านบาท
สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งจุดจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดและออนไลน์ อีกทั้งบริษัทได้เปิดร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ในทำเลศักยภาพ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 40.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะเดียวกันกำลังซื้อจากต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากลูกค้าในประเทศจีนที่ทยอยกลับมาหลังจากเปิดประเทศ ขณะที่ประเทศอื่นๆ มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 130.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน รวมถึงบริษัทมีการพัฒนาด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่กลุ่ม BEAUTY & WELLNESS ซึ่งตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังคาดว่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถพลิกกลับมามีกำไร หลังการปรับโครงสร้างการขายและบริหาร ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและต้นทุนลดลง ทั้งนี้บริษัทจะขยายช่องทางจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและความนิยมของลูกค้า
โดยแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายในประเทศ ช่องทางโมเดิร์นเทรดคาดว่าสิ้นปีนี้จะมี 8,350 จุดจำหน่าย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3,219 จุดจำหน่าย โดยมีแผนจะขยายเพิ่มในช่องทาง Makro และ 7-11 และตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ BEAUTY BUFFET SHOP จำนวน 10 สาขาในปีนี้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง จากปัจจุบันมีร้านค้าปลีก BEAUTY BUFFET SHOP รูปแบบใหม่รวม 9 แห่ง ได้แก่ อยุธยาซิตี้พาร์ค, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ, สยามสแควร์วัน, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล ระยอง, โลตัส ศรีนครินทร์, แพลตินั่ม และมาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน ในทำเลศักยภาพ มีกระแสตอบรับที่ดี จากทั้งลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์แบบ O2O เต็มรูปแบบ
ส่วน E-Commerce จะเน้นเพิ่มความสามารถการนำฐานข้อมูลลูกค้าเก่าและใหม่มาใช้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมความสนใจผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน พัฒนาแพลตฟอร์มและแคมเปญการตลาดให้มีความหลากหลายทั้งในเว็บไซต์ของ BEAUTY BUFFET และ Market Place ชั้นนำ อาทิ KONVY Shopee Lazada
การตลาดใน Social Media เน้นการขายสินค้าโดย Affiliate Marketing และ Drop Ship อาทิ TIKTOK และการ Live Streaming ในเฟสบุ๊คเพจของ BEAUTY BUFFET เพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่าน Line Pay เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เข้าถึงได้ทุกช่องทาง สั่งซื้อง่าย และได้รับสินค้าถูกต้อง รวดเร็ว
ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายใน 12 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ซาอุดิอาระเบีย ฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว มาลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น โดยในช่วงต่อจากนี้จะโฟกัสกลุ่มประเทศจีนและตะวันออกกลาง (Middle East) ซึ่งยอดขายในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัญญาณที่ดี มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ อีกทั้งมีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม