บล.ฟิลลิป:
AMATA : รายได้สาธารณูปโภคยังดี…
ซื้อ TP’66: 28.30
แม้ว่ารายได้งวด 2Q66 จะลดทั้ง q-q และ y-y แต่หากมองเฉพาะ 3 ธุรกิจหลัก (ขายอสังหาฯ, สาธารณูปโภค และให้เช่า) งวด 2Q66 ลดลงไม่ต่างจาก 2Q65 มากนัก ส่วนรายได้ที่ลดลงแบบ y-y มองเป็นไปตาม Seasonal อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายคาด 2H66 มีโอกาสรับประโยชน์จากการย้ายฐานรถยนต์ BEV สู่ไทย โดยเฉพาะนิคมไทย-ไชนีส กำไรปีนี้ทางฝ่ายลดคาดจาก 2.41 พันลบ.สู่ 2.3 พัน ลบ. (-1.7%y-y) ราคาเป้าหมายลดจาก 29.8 บาท สู่ 28.3 บาท แต่ด้วย Up-side ยังสูงถึง 23% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 2Q66 | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66 | 6M65 | % y-y |
กําไร | 313 | 492 | 649 | -52% | -36% | 805 | 1,202 | -33% |
EPS | 0.27 | 0.43 | 0.56 | -52% | -36% | 0.70 | 1.05 | -33% |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 2Q66 กำไร 313 ล้านบาท -52% y-y, -36% q-q: สาเหตุจากฐานรายได้ในงวด 2Q65 สูง เนื่องจากมีรายได้จากการขายโรงงานในนิคม ซึ่งถือเป็นรายการพิเศษราว 455 ลบ. อย่างไรก็ตาม รายได้ฝั่งค่าสาธารณูปโภค ซึ่งเป็น Recuring Income ยังเติบโตต่อเนื่อง ตามที่ทางฝ่ายคาดไว้ จากอุปสงค์สินค้าในนี้คม หนุนความต้องการไฟฟ้าและน้ำประปาเพื่อการผลิต ตามการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ดีขึ้น โดยในงวด 2Q66 ทำรายได้รวมที่ 1.48 พันลบ. (-32%q-q, -30%y-y) ส่วนฝั่งต้นทุนลดลงตามการรับรู้รายได้ที่ลดลงสู่ 931 ลบ. (-8%q-q, +8%y-y) และ กําไรสุทธิ 31.3 ลบ. (-36%q-q, -52%y-y)
- ดังแล้วแยกวง: หลังจาก 3 เม.ย. 66 มีมติอนุมัติแผนแยกธุรกิจกลุ่มสาธารณูปโภคออกเป็นบริษัท อมตะ ยู ปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อนำรายได้จากการ Spin off ไปใช้ในธุรกิจพัฒนาพื้นที่ในนิคมต่อไป