บล.ฟิลลิป:
BGRIM: 2Q66 โตตามคาด ราคาก๊าซหนุนครึ่งหลัง
ซื้อ TP’67: 46.00
2Q66 กำไร 678 ลบ. โต +70% q-q เนื่องจากต้นทุนลดลงตามราคาก๊าซธรรมชาติ ทางฝ่ายยังคงมองบวกในครึ่งปีหลัง เนื่องจากคาดว่าราคาก๊าซจะยังลดลงอีกประมาณ 10% ช่วยชดเชยค่าไฟที่ลดลงตามค่า Ft รวมถึง 3Q66 จะมีลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่เพิ่มเข้ามา ทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 46 บาท
งบรวม | 2Q66 | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66 | 6M65 | % y-y |
กําไร | 678 | 399 | -193 | 451.1 | 70.0 | 1,077 | -170 | 735.3 |
EPS | 0.26 | 0.15 | -0.07 | 451.1 | 70.0 | 0.41 | -0.07 | 735.3 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- กำไรโตตามคาด : 2Q66 กำไร 678 ลบ. โตตามคาด +70% q-q จากปัจจัยหลักด้านต้นทุนเชื้อเพลิง โดยราคาก๊าซฯ ลดลง 16% จาก 483 บาท/MMBTU เป็น 404 บาท/MMBTU ทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลง 12% ชดเชยรายได้ที่ลดลง เนื่องจากราคาขายไฟที่ลดลงตามราคาก๊าซและค่า Ft โดยราคาขายไฟสำหรับลูกค้า EGAT ลดลง 12% จาก 4.74 บาท/หน่วย เป็น 4.16 บาทต่อหน่วย ส่วนราคาขายไฟสำหรับลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ลดลง 9% จาก 4.96 บาท/หน่วย เป็น 4.52 บาท/หน่วย ด้านปริมาณขายลูกค้า EGAT เพิ่มขึ้น 7.3% เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อน รวมถึงมีการ COD โรงไฟฟ้า SPP ทดแทนครบทั้ง 5 โครงการ แต่ปริมาณขายลูกค้า IU ลดลงเล็กน้อย 1.7% เนื่องจากมีช่วงวันหยุดค่อนข้างมาก โดยรวม 2Q66 ได้รับปัจจัยหนุนจากราคาก๊าซที่ลดลงและปริมาณขายลูกค้า EGAT ที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรยังโตได้ตามคาด +70% q-q
- ราคาก๊าซฯ ช่วยหนุน 2H66: ทางฝ่ายคาดการณ์กำไรครึ่งปีหลังจะยังได้ประโยชน์จากแนวโน้มการลดลงของ ราคาก๊าซ โดยคาดว่าราคาก๊าซจะลดลงประมาณ 10% เป็น 350-360 บาท/MMBTU ช่วยชดเชยค่าไฟที่ลดลง ตามค่า Ft ประมาณ 0.75 บาท/หน่วย นอกจากนี้คาดว่าลูกค้า IU รายใหม่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 29 MW. ในช่วงต้น 3Q66 ช่วยเพิ่มปริมาณขายในครึ่งปีหลัง และทางฝ่ายคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 46 บาท