บล.บัวหลวง:
Aapico Hitech (AH TB/AH.BK)
AH – กำไรหลักต่ำกว่าคาดมาก!
กําไรหลักต่ำกว่าที่เราคาด 27%
AH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 ที่ 410 ล้านบาท เติบโต 16% YoY แต่ลดลง 12% QoQ หากไม่รวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 111 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 299 ล้านบาท เติบโต 6.5% YoY แต่ลดลง 50% QoQ ซึ่งกําไรหลักต่ำกว่าที่เราคาด 27% (แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด) เนื่องจากรายได้จากบริษัทในเครือที่ลดลงและอัตราภาษีนิติบุคคลที่สูงกว่าคาด AH ประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับครึ่งแรกของปี 2566 ที่ 0.70 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็น อัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.1% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 29 ส.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 13 ก.ย.)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
กําไรหลักที่เติบโต YoY หนุนมาจากรายได้ในไตรมาส 2/66 ที่ 7,153 ล้านบาท เติบโต 16% YoY แต่ลดลง 12% QoQ (ตี๋ากว่าเราคาด 4%) ยอดขายธุรกิจ OEM เติบโต 14% YoY แต่ลดลง 13% QoQ เนื่องจากคำสั่งซื้อที่มากขึ้นจากรถรุ่นใหม่ๆ และสินค้าใหม่ๆ ดังนั้นการเติบโตรายได้ OEM ของ AH จึงสูงกว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (เติบโต 6% YoY แต่ลดลง 19% QoQ) การดำเนินงานในจีนรายงานการเติบโต 63.9% YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 2/65 (การล็อคดาวน์ในจีนในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว)
รายได้โชว์รูมรถยนต์ปรับตัวขึ้น 24% YoY (แต่ลดลง 8% QoQ) หนุนจากการเปิดโชว์รูมใหม่ๆ ได้แก่ Ford และโชว์รูม Proton ใหม่ (ซึ่งเปิดในเดือน ต.ค. 2565) และ Proton รุ่นใหม่ๆ
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10.8% (เป็นไปตามที่เราคาด) ขึ้นจาก 10.1% ในไตรมาส 2/65 แต่ลดลงจาก 12.6% ในไตรมาส 1/66 อัตรากําไรขั้นต้นที่ เพิ่มขึ้น YoY หนุนจากขนาดการผลิตที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มแบรนด์ใหม่ให้กับดีลเลอร์ (และรถรุ่นใหม่) และเนื่องจากเงื่อนไขการปรับต้นทุนกับลูกค้าในโปรตุเกส
แนวโน้ม
เราคาดกำไรหลักจะเติบโต YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/66 หนุนโดยออเดอร์จาก OEM (รถรุ่นใหม่และผลิตภัณฑ์ใหม่) และได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ AH ใน Advance Vehicle Engineering Global Sdn Bhd (AVEE ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในประเทศมาเลเซีย)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการค่าไรหลักปี 2566 ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1,838 ล้านบาท
คําแนะนํา
AH จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนไปสู่ EV และจากลูกค้า EV เดิม และสัดส่วนการถือหุ้นส่วนใหญ่ใน AVEE เราคงคําแนะนํา “ซื้อ”