SCAP โกยกำไรสุทธิไตรมาสที่ 2 ปี 66 อยู่ที่ 311.72 ลบ. หนุนกำไรครึ่งปีโตเด่นที่ 706.16 ลบ. อวดพอร์ตสินเชื่อรวม 30,000 ลบ. เข้าเส้นชัยก่อนกำหนดภายในครึ่งปีแรก ฟากซีอีโอ วิชิต พยุหนาวีชัย ชี้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่โตเกินคาด ถึงเป้าหมายเร็วกว่ากำหนด ครึ่งปีหลังยังโฟกัสคุณภาพสินเชื่อคุม NPL ต่อเนื่อง

วิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2566 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 311.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 13.45 % โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,744.127 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 104.40%  โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งรายได้และกำไรของไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สืบเนื่องมาจากการเพิ่มจำนวนดีลเลอร์ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีศักยภาพ จึงทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น สนับสนุนให้ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวทำให้มีดีมานด์ของสินเชื่อปรับตัวขึ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 706.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 41.35% และมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,296.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 116.46% สำหรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นผลักดันให้พอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 30,378 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเกินเป้าหมายของปี 2566 ที่บริษัทได้วางเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนแรกเท่านั้น และยังคงเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ในการดำเนินงานปีนี้ต่อไป  นอกจากนั้น SCAP ยังสามารถควบคุมคุณภาพหนี้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ กล่าวคือ NPL ณ ไตรมาส 2 อยู่ที่ร้อยละ 2.45

“พอร์ตสินเชื่อรวมเราโตไวกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาก โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ทำให้ตัวเลขออกมาดี แม้ SCAP จะสามารถทำเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อรวม 3 หมื่นล้านได้ภายในครึ่งปี ในครึ่งปีหลังของปี 2566 SCAP จะยังคงมุ่งเน้นสินเชื่อใหม่ที่มีคุณภาพมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์คู่แข่งและตลาดมีแนวโน้ม NPL สูงขึ้น เราจึงมุ่งเน้นและเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นในการคัดเลือกลูกค้า เพราะการรักษาคุณภาพหนี้เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ” วิชิต กล่าว

- Advertisement -