วันนี้คาดตลาด “ลงต่อ”

แนวรับ 1,507 / 1,498 แนวต้าน 1,522 / 1,527 FED เสียงแตกบางส่วนมองว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง สร้างความไม่แน่นอนด้านนโยบายทางการเงินต่อเนื่อง / น้ำมันยังปรับฐานต่อ กดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงาน / การเมืองในประเทศคืบหน้ามองเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น

Our View? “ยื้อไม่ไหว

คาดตลาดวันนี้ “ลงต่อ”  มองแนวรับที่บริเวณ 1,507 /1,498 และแนวต้านที่บริเวณ 1,522 / 1,527 รายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ค. ที่ผ่านมาสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยมีกรรมการส่วนหนึ่งมีความกังวลกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมาย แม้จะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงก็ตาม ทั้งนี้หากเราพิจารณาตัวเลขเงินเฟ้อผ่าน CPI และ PPI เดือน ก.ค. ที่ผ่านมายังออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐยังปรับตัวลงค่อนข้างช้า โดยเราประเมินว่าหากสถานการณ์เงินเฟ้อยังอยู่ในลักษณะดังกล่าวคาด FED จะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเร็วเท่าใดนัก และอาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดคาด  โดยล่าสุดตลาดเริ่มมีการพูดถึงแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2Q’67 แต่เราคาดว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 1Q’67 คาดมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปได้อีก สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของต้นทุน-เงินทุนในระยะยาวยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 4.28%+/- ลดทอนความน่าสนใจของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง ในเชิงเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย อีกทั้งดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง (Dollar Index) ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 103.4+/- พยายามขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้นเช่นกัน สะท้อนบรรยากาศตลาดที่ปรับความเสี่ยงได้ลดลง (Risk-off) คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ล่วงหน้าส่งมอบเดือน ก.ย. ยังอ่อนตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ ปิดที่ระดับ 79.38 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.61 ดอลลาร์ (-1.99%) ยังคงกังวลต่อทิศทางของเศรษฐกิจจีนที่คาดจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบจากจีนลดลงกระตุ้นแรงขายทำกำไรได้ต่อ ขณะที่การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐกดดันทิศทางราคาน้ำมันเช่นกัน คาดจะกดดันทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกในระยะกลางของทิศทางราคาน้ำมันจากการที่อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวจากการที่ OPEC+ ยังควบคุมนโยบายกำลังการผลิตเข้มงวดต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Downside ของราคาน้ำมันดิบได้ แนะนำรอทยอยซื้อสะสมหุ้นในกลุ่มพลังงานตามแนวรับสำคัญ

สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เราคาดตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับลดประมาณการของเศรษฐกิจไทยปี’66 ลงจากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ในโซน 3.6-3.7% คาดมีโอกาสถูกทยอยปรับลดมาอยู่ที่ระดับ 3.0-3.5% จากการที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงส่งผลต่อภาคส่งออก อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเชิงลบจากการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่องเมื่อวานนี้ขายอีก 883.96 ล้านบาท รวมทั้ง อยู่ในฝั่ง Short SET50 Index Futures กว่า 1.90 หมื่นสัญญา สะท้อนมุมมองเชิงนักลงทุนต่างชาติยังกังวลกับตลาดหุ้นไทยได้ต่อ คาดเป็นปัจจัยลดทอนความหวังเกี่ยวกับ Fund flow ที่จะไหลกลับตลาดหุ้นไทยได้ แม้ในสัปดาห์นี้คาดจะเห็นความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลมีความคืบหน้ามากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีการรีบาวด์ ได้บ้าง อย่างไรก็เราคาดว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้าออกไปมาก คาดจะไม่ทันปีงบประมาณ 67 ในเดือน ต.ค. และส่งผลให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนล่าช้าออกไป ทำให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปี’66 เป็นไปได้ยาก คาดจะกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ ขณะที่หากพิจารณาในแง่ประมาณการกำไรของบจ. ในตลาดล่าสุดหลังจบฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 2Q’66 Bloomberg Consensus คาด EPS ตลาดหุ้นไทยปี’66 อยู่ที่ระดับ 90.2 บาท/หุ้น ทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะส้นต่อเนื่อง ทําให้ Forward PE ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง บ่งชี้ถึงความน่าสนใจในเชิง Valuation ลดลงต่อเนื่อง คาดกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “OR”

  • คาดผลประกอบการในช่วง 2H’66 ปรับตัวขึ้นได้ดี จากคาดการณ์ค่าการตลาดยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ OR มี กลยุทธ์ในการขยายสาขาร้าน Café’ Amazon และ Texas Chicken รวมทั้งลงทุนใหม่ๆ ด้าน Health & Wellness และ Tourism
  • ทางเทคนิค ราคาลงทดสอบแนวรับที่เส้นแนวโน้มขาขึ้น เครื่องมือ RSI และ SSTO พยายามวกตัวขึ้นแล้ว
  • กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 20.20 / 20.00 Target 21.30 / 22.20 Stop <19.80

- Advertisement -