บล.ทรีนีตี้:

Better World Green – เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG)

2Q64 ขาดทุนเพิ่มขึ้น ธุรกิจกำจัดขยะกดดันต้นทุนเพิ่ม

  • BWG รายงานผลการดำเนินงาน 2Q64 ขาดทุนสุทธิที่ -24 ล้านบาท จาก 2Q63 ที่มีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท และ 1Q64 ที่ขาดทุน -11 ล้านบาท
  • เทียบ YoY ที่ขาดทุนจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอ่นาจควบคุมใน ETC ที่ถูกหักออกไปมากขึ้น
  • เทียบ QoQ ขาดทุนมากขึ้นจากธุรกิจกำจัดขยะที่มีต้นทุนปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องด้วยฝนตกทำให้มีน้ำเสียที่ต้องบำบัดมากขึ้น กระทบกับต้นทุนของบริษัท
  • เราปรับประมาณการปี 2564-65 ลงเป็นขาดทุน -24 ล้านบาท และขาดทุน -11 ล้านบาท ตามลำดับ การแข่งขันที่ยังสูง ส่งผลกดดันอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท
  • ปรับคำแนะนําลงเป็น “ถือ” (จากเดิม “ซื้อ”) และปรับราคาเป้าหมายไปใช้ปี 2565 ที่ 0.72 บาท อิงวิธี PBV ที่ 0.60 เท่า

ผลการดำเนินงาน 2Q64 ขาดทุน มากขึ้นเป็น -24 ล้านบาท

BWG รายงานผลการดำเนินงาน 2Q64 ขาดทุนสุทธิที่ -24 ล้านบาท ขาดทุนมากกว่าที่เราคาดไว้ จาก 2Q63 ที่มีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท และ 1Q64 ที่ขาดทุน -11 ล้านบาท

เทียบ YoY ที่ขาดทุนจากส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมเพิ่มขึ้น (เป็นรายการหักออกจากกำไร เนื่องจากการจัดทำ งบการเงินรวม) เหตุเพราะ BWG มีสัดส่วนในบริษัทย่อย บริษัท เอิร์ธ เท็คเอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “ETC” ลดลงจาก 65% เป็น 44% -ของทุนเรียกชำระแล้ว (ETC มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วง ส.ค. 63 ที่ผ่านมา)

เทียบ QoQ ขาดทุนมากขึ้นจากธุรกิจกำจัดขยะที่มีต้นทุนปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก ทำให้ มีน้ำตกลงมา กลายเป็นน้ำเสียในระบบบำบัดน้ำเสียของบริษัทมากขึ้น ซึ่งกระทบกับต้นทุนในการให้บริการ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจกำจัดขยะในไตรมาสนี้ลดลงเหลือเพียง 8% จาก 1Q64 ที่ 14%

1H64 บริษัทขาดทุนสุทธิ -35 ล้านบาท เทียบกับ 1H63 ที่มีกำไร 22 ล้านบาท จากทั้งธุรกิจกำจัดขยะที่มีกำไรขั้นต้นลดลง และส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมเพิ่มขึ้นจ และเมื่อเทียบกับประมาณการเดิมทั้งปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 5 ล้านบาท ซึ่งทิศทางใน 2H64 คาดว่าจะยังขาดทุน

ปรับประมาณการปี 2564-65 ลงเป็นขาดทุน -54 ล้านบาท และขาดทุน -5 ล้านบาท

เราปรับลดประมาณการปี 2564-65 ลงเป็นขาดทุน -54 ล้านบาท และขาดทุน -5 ล้านบาท ตามลำดับ จากธุรกิจ กำจัดขยะที่ยังไม่ฟื้นตัว และการแข่งขันที่ยังสูง ส่งผลกดดันอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท โดยเราปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจการจัดขยะในปี 2564-65 เหลือ 10% และ 13% ตามลำดับ ซึ่งมาจากการแข่งขันที่ยังสูงอยู่โดย 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีการปรับนโยบายด้านราคาลดลง 20% YoY ขณะที่ปริมาณกำจัดขยะเพิ่มขึ้น 35% YoY

ราคาเป้าหมายที่ 0.72 บาท

ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” และ ปรับราคาเป้าหมายไปใช้ปี 2565 ที่ 0.72 บาท อิงวิธี PBV ที่ 0.60 เท่า (Avg 10 ปี -1SD) ธุรกิจรับกำจัดขยะยังมีการแข่งขันกันสูง กดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัท

ความเสี่ยง

ความไม่แน่นอนของรายได้ธุรกิจกำจัดขยะและงานก่อสร้าง และข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบริษัทและบริษัทในเครือ

- Advertisement -