ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index แกว่งตัวบวกได้ในช่วงเปิดตลาด ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดัน และทำให้ดัชนีปิดลบ 11.33 จุด ณ สิ้นวัน พักตัวลงระยะสั้นตามคาด สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.8 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2.4 พันลบ. (และ Short Index Future สูงถึง 1.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราประเมิน SET Index แกว่งตัว Sidways ในกรอบ 1,620- 1,640 จุด โนระยะสั้นอาจฟื้นตัวได้บ้าง หลังจากปรับตัวลงวานนี้ แต่คาด Upside ยังจำกัด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน การประชุม ECB วานนี้ยังคงนโยบายการเงิน แต่ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ลงจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้น ส่วนการประชุม FED ปลายเดือนนี้ ต้องจับตาว่าจะมีการพิจารณาลด QE ในเดือนพ.ย.เลยหรือไม่ ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการคลาย Lockdown เฟส 2 ในการประชมุศบค.ชุดใหญ่ รวมถึงแผนการทยอยเปิดเมืองท่องเที่ยวในประเทศ และ Bubble กับประเทศเพื่อนบ้านเป็นลำดับ ในเชิงกลยุทธ์แนะนำให้ “สะสมหุ้นกลับ” หลังทำกำไรระยะสั้นแล้วบางส่วน โดยมองแนวรับระยะสั้นที่ 1,620+- จุด และระดับหลักคือ 1,600+- จุด โดยยังเน้นกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ได้แก่ ธนาคาร โรงกลั่น ไฟแนนซ์ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งได้อานิสงส์ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard และหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

กลยุทธ์:

เน้นเก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard และสะสมหุ้นกลับในช่วงตลาดพักตัวบริเวณ 1,620//1,600 จุด

หุ้นเด่นเดือนก.ย.: BDMS, CPALL, CRC, M, TACC

หุ้นเด่นวันนี้: GLOCON

  • แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายปี 2022 ท่ี 1.50 บาท
  • เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานใน 2H21 แม้จะกระทบจาก COVID-19 บ้างช่วงต้น 3Q21 แต่ฟื้นตัวได้เร็ว และคาดยังมีกำไรได้ต่อเนื่อง ส่วน 4Q21 จะเร่งตัวขึ้นชัดเจน
  • ล่าสุดกำลังออกสินค้าใหม่ Plant-Based ลาบทอดวางขายใน 7-11 ภายในเดือนน้ี
  • เราคงประมาณการปี 2021 พลิกมีกำไร 42 ลบ. และเร่งขึ้นในปี 2022 เป็น 146 ลบ. และคาดมีดีล M&A เป็นปัจจัยหนุน
  • แนวรับ 1.15 บาท แนวต้าน 1.30-1.35 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องอีก US$342 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$312 ล้าน แต่ไหลเข้าไต้หวัน  US$71 ล้าน ส่วนตลาดอาเชี่ยนเม็ดเงินไหลออกทุกประเทศนำโดยไทย US$72 ล้าน แนวโน้มของกระแส เงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลออกจากความกังวลเศรษฐกิจ ที่ฟื้นในอัตราชะลอลง ขณะท่ี ECB และ FED ส่งสัญญาณทยอยลดวงเงิน QE

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) DOHOME แนวโน้มกำไร 3Q21 จะอ่อนตัวลง Q-Q จาก COVID-19 ที่ต้องปิดบางสาขา กอปรกับราคาขายเหล็กเริ่มปรับลงสวนทางต้นทุนเหล็กที่ปรับขึ้น แต่คาดกลับมาฟื้นตัวใน 4Q21 จากการ Reopening และการเปิด 2 สาขาใหม่เดือน พ.ย.-ธ.ค. อย่างไรก็ตาม เรามองกำไรได้ผ่านจุดสูงสุดปีนี้ไปแล้วใน 2Q21 โดยกำไร 2H21 จะต่ำกว่า 1H21 เรายังคงประมาณการกำไรปี 2021-2022 +157% Y-Y และ +6% Y-Y โดยหลังจาก เพิ่มทุน PP ทำให้มีสภาพคล่องดีขึ้น และสามารถหาแหล่งเงินทุนอื่นเพิ่มเติมได้ เรายังมองบวกต่อการเติบโตระยะกลาง-ยาว จากสาขาปัจจุบันที่ยังน้อยและขยายได้อีกมาก และคงราคาเป้าหมายปี 2022 ท่ี 29 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) DRT คาดกำไร 3Q21 ลดลง Q-Q จาก Low Season เพราะเป็นฤดูฝน รวมถึงการปิดแคมป์คนงาน และ Lockdown อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q21 จากสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่อนคลายมากขึ้น เรายังคาดกำไรปี 2021 Flat Y-Y ส่วนปี 2022 คาดเติบโตเล็กน้อย +4% Y-Y เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2022 ที่ 8.30 บาท จุดเด่นยังคงเป็น Dividend Yield ที่สูง 6-7% ต่อปี ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

(+) IIG เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อกำไร 2H21 ที่จะเติบโตโดดเด่นทั้ง H-H และ Y-Y จาก High Season และ Demand ความต้องการลงทุนระบบ Cloud CRM และ ERP ที่สูง ส่วนธุรกิจใหม่ๆ ทั้งการเป็นตัวแทนขาย Software Coupa (Business Spend Management) และ Vonage (Cloud Communication Platform) รวมถึงการเข้าซื้อหุ้น 60% ใน Diginative จะสามารถทำให้ IIG มีบริการที่ครบวงจรด้านการให้บริการด้าน Digital Transformation และเป็น Upside ต่อประมาณกำไรปี 2021-2023 ปัจจุบันที่คาด +31% CAGR คงราคาเป้าหมาย 31 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 151.69 จุด หรือ 0.43% ปิดท่ี 34,879.38 จุด หลังรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐลดลงเป็น 310,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 335,000 ราย ทำให้มีความกังวลว่าเฟดอาจปรับลดวงเงิน QE เร็วกว่าที่คาดไว้

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยหลัง ECB ส่งสัญญาณในการประชุมวานน้ีว่าจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจาก COVID-19 ใน 4Q21 ตามตลาดคาด

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม กดดันจากการปรับลงของตลาดดาวโจนส์ ขณะที่ตลาดหุ้นโตเกียวปรับขึ้นตอบรับรัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นจะออกนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ

(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.70บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 68.14 ดอลลาร์/บารเ์รล จากรายงานว่ารัฐบาลจีนจะปล่อยน้ำมันดิบออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ เพื่อช่วยให้โรงกลั่นภายในประเทศสามารถควบคุมต้นทุนราคา ขณะที่ EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาน้อยกว่านักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 7.4 ล้านบาร์เรล

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดท่ี 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 998.52 / +-

- Advertisement -