วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”

แนวรับ 1,522 / 1,507 แนวต้าน 1,537 / 1,545 ยังกังวลกับแนวโน้มนโยบายทางการเงิน โดยเรายังคาด FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ / น้ำมันเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นได้บ้าง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัว / การเมืองในประเทศคืบหน้ามองเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น

Our View? “พยายามแค่ไหนก็ตามแต่”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,522 / 1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,537 / 1,545 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ กังวลความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จากรายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ค. ออกมาระบุกรรมการส่วนหนึ่งมีความกังวลกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า อัตราเงินเฟ้อยังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมาย แม้จะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงก็ตาม ทำให้ตลาดเริ่มพูดถึงแนวโน้มการที่ FED อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไปนานกว่าที่คาดตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า โดยเรายังมองว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 1Q’67 คาดมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปได้อีก  ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปีพยายามปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ลดทอนความน่าสนใจของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในเชิงเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินในระยะยาวสูงขึ้น อีกทั้งเมื่อคืนนี้ Conference Board (CB) รายงานตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) เดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ -0.4% ยังเป็นภาพการหดตัวลงต่อเนื่อง บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลง คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้เช่นกัน

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ล่วงหน้าส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้ฟื้นตัวกลับขึ้นบ้าง ปิดที่ระดับ 80.39 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.01 ดอลลาร์ (+1.27%) ได้รับแรงหนุนจากรายงานปริมาณน้ำมันดิบในคลังสำรองจีนลดลง จากอุปสงค์น้ำมันในจีนแข็งแกร่ง อีกทั้งธนาคารกลางจีน (PBOC) ส่งสัญญาณจะรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอและพร้อมใช้นโยบายสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบ-หุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวกลับขึ้นได้  ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกในระยะกลางของทิศทางราคาน้ำมัน จากการที่อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวจากการที่ OPEC+ ยังควบคุมนโยบายกำลังการผลิตเข้มงวดต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน คาดจะเป็นปัจจัยจำกัด Downside ของราคาน้ำมันดิบได้ แนะนำรอทยอยชื้อสะสมหุ้นในกลุ่มพลังงานตามแนวรับสำคัญ

สําหรับปัจจัยภายในประเทศแม้จะเห็นความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลมีความคืบหน้ามากขึ้น จากแนวโน้มการโหวตเลือกนายกในวันที่ 22 ส.ค. นี้คาดจะส่งผลให้ตลาดมีการรีบาวด์ได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการจัดทํางบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้าออกไปมาก คาดจะไม่ทันปีงบประมาณ 67 ในเดือน ต.ค. และส่งผลให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนล่าช้าออกไป ทำให้การออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปี’66 เป็นไปได้ยาก คาดจะกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ ขณะที่หากพิจารณาในแง่ประมาณการกำไรของบจ. ในตลาดล่าสุด หลังจบฤดูกาลประกาศผลประกอบการ 2Q’66 Bloomberg Consensus คาด EPS ตลาดหุ้นไทยปี 66 อยู่ที่ระดับ 90.2 บาท/หุ้น ทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นต่อเนื่อง ทำให้ Forward PE ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง บ่งชี้ถึงความน่าสนใจในเชิง Valuation ลดลงต่อเนื่อง คาดกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ ขณะที่สัปดาห์หน้าแนะนำติดตามการรายงานตัวเลข GDP 2Q′66 ของไทยคาดจะออกมา 3.0%YoY/ 1.3%QoQ เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ บ่งชี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังเป็นไปค่อนข้างช้า คาดจะกดดันทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันน้ี “AEONTS”

  • คาด 3Q’66 อาจเห็นการฟื้นตัวกลับขึ้นบ้าง เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มผ่านจุดแย่ที่สุดไปแล้ว และคาดจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้ ขณะที่ราคาปรับตัวลงรับรู้ผลประกอบการ 2Q’66 อ่อนแอไปในระดับหนึ่งแล้ว
  • ทางเทคนิค ราคาวกตัวขึ้นยกจุดต่ำสุดใหม่ ในภาพระยะสั้นหลัง Throwback ที่เส้นแนวโน้มขาลงก่อนหน้า พร้อม MACD และ RSI ให้สัญญาณซื้อ
  • กลยุทธ์ เล่นรีบาวด์ แนวรับ 156.50 / 154.50 Target 161.00 / 170.00 Stop <152.50

- Advertisement -