สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อ-ขาย เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จากความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับ 4.31% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และความกังวลจากการยื่นล้มละลายของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป โดยแรงขายหลักมาจากหุ้น DELTA -4.78% ส่งผลต่อดัชนีราว -4.6 จุด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,519.12 จุด -9.69 จุด -0.63% มูลค่าการซื้อขาย 56,887 ลบ. ต่างชาติ -387.87 ลบ. TFEX -23,791 สัญญา ตราสารหนี้ -1,585.85 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 25.83 จุด +0.07% โดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปลอดภัยช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การแถลงสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน เฟด 25 ส.ค. ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ลดลง 2.2%

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ +1.1% ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรลดอลลาร์ แต่ปรับตัวลง 2.3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา การปรับขึ้นได้แรงหนุนจากภาวะตลาดน้ำมันที่ตึงตัว แต่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์เนื่องจากนลท.วิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันจากจีน และราคาถูกกดดันจากอัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น และการแข็งค่าของดอลลาร์

+ วัคซีนโควิดตัวใหม่จากบริษัทไฟเซอร์, โมเดอร์นา และโนวาแวกซ์มีแนวโน้มที่จะสามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “เอริส” (Eris) ซึ่งขณะนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ

+/- ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 3.45% แต่คงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเอาไว้ที่ระดับ 4.20% ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสํารวจของรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้ง 2 ประเภท

ปัจจัยลบ-

– บริษัทไซน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ราย ใหญ่ของจีนได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐ เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลาย เนื่องจากประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้วิกฤตหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนลุกลามเป็นวงกว้าง

– กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ยูเครนได้ส่งโดรนโจมตีอาคารแห่งหนึ่งในใจกลางกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ส่งผลให้เกิดระเบิดเสียงดังกึกก้องทั่วย่านธุรกิจในกรุงมอสโก

– กองทัพจีนเริ่มซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวัน เพื่อเป็นการเตือนต่อกลุ่มที่ต้องการแยกตัวเป็นอิสระจากจีน และเป็นการตอบโต้ต่อการที่นาย วิลเลียม ไล่รองปธน.ไต้หวันเดินทางไปแวะเยือนสหรัฐ

– ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-18 สิงหาคม 2566 พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 45,960.04 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขายสุทธิ 2,105.76 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 132,176.58 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ซื้อสุทธิ 88,322.30 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนในการโหวตเลือกนายก ฯ ในวันพรุ่งนี้ ประกอบกับรอการประชุมประจำปีของ FED ในวันที่ 24 – 26 ส.ค. กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,510-1,526 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
  • หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
  • FETCO แนะนำกลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ : ERW CENTEL SPA
  • iPhone 15 เปิดตัว ก.ย. : COM7 SPVI CPW SYNEX
  • MSCI rebalance มีผล 1 ก.ย. : MSCI Global Standard Index เข้า TTB ออก CBG SAWAD MSCI Small cap index เข้า CBG COM7 ITC PSG SAWAD ออก PTL SINGER S

หุ้นรายงานพิเศษ

RBF – Bloomberg Consensus 11.80 บาท “มุมมองบวกต่อกําไร 2Q66 ต่อเนื่องไปยังช่วง 2H66”

  • (+) งวด 2Q66 มีกำไร 153 ลบ. +33%YoY +4%QoQ โดยมีรายได้ 1,056 ลบ. +8%YoY ทรงตัว QoQ โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากยอดขายต่างประเทศที่เติบโต ซึ่งมาจากการกลุ่มแป้งและซอส และกลุ่มแต่งกลิ่นรสและสีผสมอาหาร ส่วน %GPM ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 36.7% (2Q65 = 34.2%, 1Q66 = 36.1%) จาก Product Mix ในผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง และต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลงจากปีก่อน
  • (+) ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อกำไร 2Q66 ต่อเนื่องไปยังช่วง 2H66 ที่คาดจะโตดีต่อเนื่อง ทั้งรายได้ในกลุ่ม Domestic และ Oversea จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการเปิดประเทศ สอดคล้องกับแผนเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ อาทิ 1) โรงงานที่อินโดนิเซียเฟส 2 คาดเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงเดือน ก.ย.66 และ 2) โรงงานที่อินเดีย คาดสร้างเสร็จช่วง 1Q67 ส่วนแนวโน้ม %GPM ช่วง 2H66 คาดจะปรับดีขึ้นจากช่วง 1H66 จากต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มลดลง (อาทิ แป้งสาลี สัดส่วน 10% ของต้นทุนรวม) และสัดส่วนการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นมากขึ้น โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 66 ราว 656 ลบ. +36% ซึ่ง 1H66 มีกำไร 300 ลบ. +8%YoY (คิดเป็น 46% ของประมาณการทั้งปี 66) และราคาเหมาะสม 11.80 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) BGRIM (Bloomberg consensus 44.00 บาท) สนใจรุกไฟฟ้าเวียดนาม หลังประกาศแผนพีดีพี 8 พุ่งเป้า LNG-to-Power พลังงานลมและโซลาร์รูฟท็อป ลุยต่างประเทศต่อเนื่อง ทั้งเกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ปีนี้ตั้งเป้า COD จำนวน 632 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าบีกริม อ่างทอง 2 และ 3 เริ่ม COD ปลายปี ครึ่งหลังรับลูกค้าอุตสาหกรรมอื้อเป้าเพิ่ม 50-60 เมกะวัตต์ หมื่นเมกปี 2573 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BAM (Bloomberg consensus 11.90 บาท) เร่งประมูลหนี้มาบริหารเพิ่มกว่า 7.1 หมื่นล้านบาท ภายในปีนี้ หวังดันผลเรียกเก็บทั้งปีเข้าเป้า 1.78 หมื่นล้านบาท ปลื้มผลเรียกเก็บไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้น 28% และมีกำไร 425 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนซื้อทรัพย์เติบโตสูงถึง 296% แตะ 22,408 ล้านบาท ชี้กลยุทธ์ครึ่งปีหลังนี้รุกธุรกิจเต็มสูบทั้งด้าน NPL/NPA (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WPH (Bloomberg consensus – บาท) มองผลงานไตรมาส 3/2566 พีค หลังเข้าไฮซีซันธุรกิจ ชูอัตราครองเตียงตรัง-อ่าวนาง พุ่งเหนือ 100% ตามการขยายตัวของชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยว ภาคใต้ที่เพิ่มขึ้น มั่นใจปี 2566 รายได้โต 30% ยืนเหนือ 1.5 พันล้านบาท ด้านรพ.สมุย แนวโน้มเด่น สิ้นปี Break EBITDA ได้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ORI (Bloomberg consensus 13.10 บาท) รุกเปิดโครงการครึ่งปีหลังกว่า 24 โครงการ มูลค่า กว่า 2.87 หมื่นล้านบาท ทั้งแนวสูงพร้อมแนวราบ หนุนเป้ายอดขายที่ 3.5 หมื่นล้ หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดโอนครึ่งปีหลังมีอีกเพียบคอนโด 7 โครงการ แนวราบ 15 โครงการ ดันรายได้ตามเป้า 3 หมื่นล้านบาท คาดมาร์จิ้นดีขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 21 ส.ค. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/66
  • 22 ส.ค. โหวตนายกฯ
  • 23-25 ส.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัด Thailand Focus 2023 “The New Horizon”
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 31 ส.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 27 ก.ย. การประชุม กนง. ครั้งที่ 5/2556

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 21 ก.ค. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
  • 22 ก.ค. สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.
  • 23 ส.ค. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB)
    • สหรัฐ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 24 ส.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. ดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ค. จากเฟดชิคาโก
  • 24 – 26 ส.ค. การประชุมประจำปีของ FED ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐ ไวโอมิง ภายใต้หัวข้อ “Structural Shifts in the Global Economy” นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าว สุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.
  • 25 ส.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จาก มหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • 19-20 ก.ย ประชุม FED
- Advertisement -