ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ยังอยู่ในช่วงปรับฐานต่อ

ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน SET Index วันศุกร์แกว่งตัวลงต่อแต่ไม่น่าลงแรง หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ เผชิญแรงขายในช่วงบ่าย โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ที่สภาพคล่องต่ำๆ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิอีกครั้ง … สำหรับในวันนี้ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย ในฝั่งต่างประเทศนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงหลังจากนักลงทุนมองว่าการประกาศ QE tapering ของเฟดน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ (เช่นในการประชุม FOMC วันที่ 22ก.ย.นี้) หลังจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงสู่ 3.1 แสนคน (ดีกว่าที่ consensus คาด) ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTi ปรับฐานเช่นกัน หลังจากตัวเลขสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของ EIA ลดลงนอ้ยกว่าที่ consensus คาด ส่วนในฝั่งยุโรปนั้น ธ.กลางยุโรป (ECB) แถลงหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า จะชะลอการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ PEPP มูลค่า 1.85 ล้านล้านยูโร ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2565… ด้านปัจจัยในประเทศนั้นวันนี้จะมีการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ซึ่งน่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมสำหรับช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป และในวันนี้ยังมีการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติวาระ 3 ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือการกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2ใบ ทั้งนี้เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 14,403 ราย เสียชีวิต 189 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 15,610 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร SIMAT, PTG*, SPRC*

  • SIMAT (เป้าพื้นฐาน 8.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.8 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.6 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-7 บาท (Trailing stop 5.6 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q64 เติบโตแบบ YoY, QoQ ต่อเนื่องจาก 2Q64 จากการปรับโครงสร้างภายในลดต้นทุนการบริหารจัดการ รับรายได้จากโครงการเน็ตชายขอบ (เข้าสู่ช่วงการบริหารจัดการ อัตรากำไรดีกว่างานติดตั้งอุปกรณ์) และผลการดำเนินงาน บ.ลูก ฮินชิสึ เป็น High season ของการส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า 3) Catalyst อื่นๆที่เป็น Upside i) เรื่องการยื่นไฟลิง บ.ฮินชิสึ เพื่อ IPO ปลายปีนี้ ii) ลุ้นชนะคดีกับ CAT(รอศาลปกครองสูงสุดที่จารณามูลค่าราว 400 ล้านบาท) iii) คาดปีนี้ปันผลได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 26.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.5บาท/แนวต้าน 18.2–18.4 บาท (Stop loss 17 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้ว โดยคาดปริมาณขายน้ำมันจะเริ่มฟื้นตัว หลังผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในเดือน ก.ย. (ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯ สะท้อนยอดขายน้ำมันที่จะลดลงในเดือน ก.ค.-ส.ค. แล้ว ) ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบเฉลี่ยที่ +35 บาท/กก. (+17% QTD) คาดธุรกิจไบโอดีเซลมีโอกาสกำไรสต๊อก 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัว ขณะที่ราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่ม Reopening และ Forward PE ปี 2564 และ 2565 = 15.8 เท่า และ 13.3 เท่า ตามลำดับ (-1 เท่าของสว่นเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยในอดีต = 14 เท่า) 4) คาด 4Q64 มี Catalyst การยื่นไฟลิง บ.ลูก เข้า IPO (ธุรกิจ LPG)
  • SPRC* (เป้าพื้นฐาน 10.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.0 บาท / แนวต้าน 9.25 – 9.50 บาท (Stop loss 8.8 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัว (ฝ่ายวิจัยฯคาด 2Q เป็นจุดต่ำสุดของปี) และคาด Demand การใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบินจะฟื้นตัวเด่นใน 4Q64 ที่เป็นฤดูหนาวและเป็นฤดูท่องเที่ยว (คาดหลายประเทศจะเริ่มเปิดน่านฟ้า หลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย) 3) PBV 1.27 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.4 เท่า ขณะที่คาดผลวัฏจักรขาลงของค่าการกลั่นแล้ว

หุ้นมีข่าว

(0) THCOM บริหารต่อ 3 เดือน ไม่บังคับอินทัชซื้อหุ้นเพิ่ม พร้อมส่งมอบไทยคม 4 และ 6 หลังครบสัมปทาน 30 ปี (ข่าวหุ้น ) “ชัยวุฒิ” ตรวจเยี่ยมศูนย์ไทยคมก่อนโอนทรัพย์สินสัมปทานให้ NT วันที่ 11 ก.ย. นี้ THCOM ช่วยบริหาร 2-3 เดือน ส่วนเรื่องพันธมิตรกับ NT ยังไม่ได้ข้อสรุป ลั่นจบไม่เกินสิ้นปี 64 ด้านเพิ่มสัดส่วน INTUCH* ถือ THCOM เป็น 51% ไม่บังคับเอกชน แต่ดำเนินการต่อไปไม่กระทบส่งมอบทรัพย์ฟาก “บอร์ดกสทช.” อนุญาตให้ NT ใช้สิทธิ์ในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม

(+) TWPC มั่นใจปี 64 สถิติสูงสุดใหม่ ดีมานด์แป้งมันสำปะหลังพุ่ง (ผู้จัดการ 360 องศา) ไทยวามั่นใจผลงานปี 64 สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์ดีมานด์แป้งมันสำปะหลังพุ่ง -ส่งออกหนุนรายได้โต 2 หลักตามเป้า หลังจากทั่วโลกเริ่มคลายล็อคดาวน์ เงินบาทอ่อนค่า พร้อมลุยผลิต “ไบโอพลาสติก” ปลายปีนี้ หนุนผลงานปี 65 ทะยานต่อเนื่อง

(+) NRF บุ๊คเจาะอีคอมเมอร์ซซื้อ ‘อินดีม กรุ๊ป’ ต่อยอด (ทันหุ้น ) NRF เดินหน้ารุกตลาดอีคอมเมิร์ซเต็มสูบ ประกาศเข้าลงทุนใน “อินดีม กรุ๊ป ” ประกอบธุรกิจ Network Marketing ผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มใหม่ โชว์นวัตกรรมสินค้าจากน้ำมันกัญชง เจาะตลาดอาเซียน ตั้งเป้าโกยรายได้ 300 ล้านบาท ในปี 2565
(+) TPS ตั้งบริษัท ‘เอ็กซ์- ซีเคียว’ แก้ภัยคุกคามไซเบอร์ 24 ชม. (ทันหุ้น ) TPS ตั้ง “เอ็กซ์- ซีเคียว” รุกธุรกิจ ใหม่ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ให้บริการด้านความปลอดภัยบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ครบวงจร ให้คำปรึกษาจัดการแก้ไขป้องกันภัยคุกคามไซเบอรต์ลอด 24 ชม. เพิ่มช่องทางรับทรัพย์ ล่าสุดคว้างานติดตั้งระบบสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 44.50 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกทะลุ 600 ล้านบาท

(+)CV สรุปงานใหญ่คว้า 5 โครงการมูลค่า 216 ล้านบ.(ทันหุ้น) CV เซ็นสัญญาคว้างาน EPC5 โครงการมูลค่ารวม 216 ล้านบาท ดัน Backlog กลุ่มงาน EPC พุ่ง คาดทยอยรับรู้รายได้ตามความคืบหน้าของงานตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เป็นต้นไป ด้านผู้บริหารประกาศเดินหน้าทยอยประมูลงานต่อเนื่อง หวังหนุนผลงานปีนี้เติบโตตามแผน

(+) ลูกหุ้น XPG เทรดสิ้นวันนี้ พี/อี ปีหน้าวูบ เหลือ 80 เท่า (ข่าวหุ้น ) จากตาลูกหุ้น XPG กว่า 5.7 พันล้านหุ้น เข้าเทรดวันนี้ วงในคาดวอลุ่มทะลัก หลังหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า และไม่ติดไซเลนต์พีเรียด มองปีนี้กำไรไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนปี 2565 โตอีกหลายเท่า มีลุ้นพันล้าน กด P/E เหลือ 60-80 เท่า จากปัจจุบัน 800 เท่า หลังธุรกิจโบรกฯ ,เอเอ็มซี, กองทุน และสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งธุรกิจวาณิชธนกิจ เดินหน้าเต็มสูบปีหน้า

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดล็อคกำไร (Trailing stop): W (Trailing stop 4.5 บาท) SA (Trailing stop 8.6 บาท) BANPU* (Trailing stop 12.1 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 95 บาท) แนวรับ 80 บาท / แนวต้าน 84 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 80 บาท)
  • ECL (เป้าพื้นฐาน 2.6 บาท) แนวรับ 1.83 บาท / แนวต้าน 1.93 – 2.0 บาท (Trailing stop 1.8 บาท)
  • JMART* (เป้าพื้นฐาน 48 บาท) แนวรับ 40 บาท/แนวต้าน 42-44 บาท (Trailing stop 39 บาท)
  • BAM* (22 บาท) แนวรับ 18.3 บาท/แนวตา้น 19.0-19.2 บาท (Stop loss 18.2 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 20.6 บาท/แนวต้าน 21.6-22 บาท (Stop loss 20 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • ORI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ออกบทวิเคราะห์ initiate coverage โดยประเมิน Catalysts บวกได้แก่ i) Earnings momentum เป็นขาขึ้นต่อเนื่อง (คาดกำไรโต +24% CAGR ใน 2 ปีข้างหน้า) จากธุรกิจอสังหาฯที่มี Backlog แข็งแกร่ง ii) การกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของอุตสาหกรรมฯอสังหาฯ และจะหนุนการเติบโตในอนาคต
  • XO แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 32.75 บาท จาก Opportunity day ฝ่ายวิจัยฯมีมุมมองเป็นกลาง โดยประเด็นหลักยังเป็นการออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯคาดไว้ในประมาณการฯแล้ว และคาดผลการดำเนินงาน 2H64 จะเติบโตเด่น YoY ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -