บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
SYNNEX THAILAND PLC. Upgrade รับสามปัจจัยหนุนการเติบโต
Action
BUY (Maintain)
TP upside (downside) +28.2%
Close Sep 9, 2021 Price (THB) 25.5
12M Target (THB) 32.70
Previous Target (THB) 27.8
What’s new?
SYNNEX Corporation (NYSE-SNX) เข้า Merge กิจการ Tech Data Corporation ทำให้ SYNNEX ในภาพรวมของท้ังกลุ่ม ก้าวขึ้นมา เป็นเบอร์ 1 ในตลาด IT Distribution ท่ัวโลก ผลบวกสำคัญระยะยาวต่อ SYNEX ประเทศไทยคือ โอกาสได้ส่ังซื้อสินค้าในราคาท่ีดีขึ้น และการเพิ่มเติม Suppliers ที่หลากหลาย เพิ่มชึ้นในระยะถัดไป
Our View
- ระยะสั้นได้ประโยชน์โดยตรงจากการเปิดตัว APPLE ในวันอังคารท่ี 14 ก.ย.64 ระยะกลางการเปิดตัวของ SWOPMART ที่เข้ารุกตลาดสินค้า IT มือสองในช่วงสองเดือนจากนี้คือจุดเพิ่มมูลค่าท่ีตลาดรอคอย
- แนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 32.70 บาทต่อหุ้น (อิง PER 30x) เลือก SYNEX เป็นตัวแทนการเติบโต IoTs ประเทศไทย
SYNNEX USA Merge กับ Tech Data กลายเป็นเบอร์ 1 IT Distributor
สํานักข่าว www.crn.com รายงานข้อมูล SYNNEX Corporation (NYSE – SNX) ได้ทําการ Merge กิจการ Tech Data Corporation (Non-Listed) ซึ่งเป็น IT Distribution เช่นกัน ผลลัพธ์ของรวมกิจการทํา ให้ SYNNEX Corporation ก้าวขึ้นม่เป็น 1 ในตลาด USA โดยปกติ SYNNEX ในแต่ละประเทศจะมีการทํางานแยกจากกันเป็นอิสระ แต่จะมีโครงการทํางานร่วมกันเพิ่มขึ้นในอนาคตเพื่อประโยชน์กับทั้งกลุ่ม เช่น การสั่งสินค้าร่วมกันเพื่อให้ได้ราคาที่ดี การแนะนํา Suppliers ใหม่ๆ ต่อกัน และความรว่มมืออื่นๆ เนื่องจาก Deal การควบรวมกิจการเพิ่งประกาศ เราคาดใช้เวลาราว 6 เดือนจากนี้จะเริ่มเห็นประโยชน์ทั้งทาง GPM ที่เพิ่มขึ้น และ Brand สินค้าใหม่ๆเกิดขึ้นกับ SYNEX ประเทศไทย
การเข้ามาของ IoTs คืออนาคตการเติบโตรอบใหญ่ … Catalyst ระยะยาว
การเข้ามาของยุค 5G และ IoTs จะทําให้จำนวนสินค้า IT ทั้งในรูป Hardware และ Software ในมือผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ NECTEC คาดการณ์การเติบโตของ IoTs ทั่วโลกที่ 28% ต่อปี ในช่วงปี 2563-2568 ซึ่งเรามองว่า Wholesale Distributors จะได้ประโยชน์สุงสุดจากสินค้า IoTs ที่มีจํานวนมากและหลากหลาย จำเป็นต้องพึ่งพา Wholesale มากกว่าในอดีต นอกจากนี้เมื่อบริษัทฯแม่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นชั้นนําระดับโลก ประโยชน์ทางอ้อมย่อมตกกับ SYNEX ประเทศไทย ให้พร้อมเติบโตใหญ่ในยุคถัดไป
การเปิดตัวของ APPLE ในคืนวันอังคารท่ี 14 ก.ย.64 … Catalyst ระยะสั้น
APPLE ได้ประกาศจัดงานอีเวนท์ใหญ่ประจําปี (APPLE Event) ในวันท่ี 14 ก.ย.64 หรือเป็นเวลาเที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทย โดยงานในปีนี้คาด APPLE จะเปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่เช่น iPhone13 Series, Apple Watch Series 7, AirPods 3 และ iPad mini 6 รวมถึงจะมีการเพิ่ม feature ใหม่ อย่างปรับรูปโฉม ให้เข้ากับความต้องการกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพิ่มชิปเซ็ตตัวใหม่ท่ีจะใส่มาในเครื่อง และคาดว่าจะออกขนาดความจุใหม่ คือขนาด 1TB ในตัว iPhone 13 Pro เป็นครั้งแรก หากมีการตอบรับที่ดี คาดว่าจะเป็นตัวหนุนรายได้ผู้จัดจําหน่าย ปัจจุบันยอดขาย APPLE ของ SYNEX อยู่ที่ราว 30%+/- ของกลุ่มมือถือ
ธุรกิจ e-Commerce สำหรับสินค้ามือสอง … Catalyst ระยะกลาง
การเข้าลงทุนในบริษัทฯ SWOPMART SYNEX ถือหุ้น 60% เพื่อทําธุรกิจ Market Place สําหรับสินค้า IT มือสอง โดย SYNEX จะเป็นผู้ตรวจสอบและการันตีสินค้า และช่วยในระบบการชําระเงินและจัดจําหน่าย อยู่ในช่วงของการ Test Run ภายในแล้ว คาดจะมีการเปิดใช้งานในช่วง 2 เดือนจากนี้ เป็นปัจจัยสําคัญที่จะหนนุการเติบโตของ SYNEX ในระยะถัดไป ที่เราเชื่อว่าตลาดจะพร้อมให้น้ำหนักกับ Valuation จาก 1) มูลค่าตลาด IT มือสอง อยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตลาดที่ยังไม่มีผู้นำในตลาด บริษัทฯคาดหวัง Market share 50% ภายใน 3 ปี หรือหมายถึงรายได้ที่ราว 1,250 ล้านบาท (25,000×5%) และ 2) มูลค่าของธุรกิจ e-Commerce Platform หากทำสำเร็จจะถูกซื้อขายบน GMV ซึ่งจะสูงกว่าฐานการคิดบนกำไร
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 32.70 บาทต่อหุ้น
เราคงประมาณการปี 2564 ที่ 786 ล้านบาท (+22.4% YoY) และปี 2565 ท่ี 924 ล้านบาท (+17.5% YoY) แต่ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 32.70 บาทต่อหุ้น อิง PER 30x Premium ที่สูงกว่าปกติของเรา เพื่อให้สะท้อนโอกาสในตลาด IT มือสองขนาดใหญ่ การเติบโตของ Addressable Market อย่างมีนัยสําคัญในยุค IoTs และอํานาจต่อรองกับ Supplier ท่ีสูงขึ้นของกลุ่ม
เราคงคําแนะนํา “ซื้อ” เราเลือก SYNEX เป็นตัวแทนการเติบโตของตลาด IoTs ของประเทศไทย
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) Synergy ระหว่างกลุ่มไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่หวัง ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 2) รอบกระแสเงินสดที่ดีขึ้นไม่ยั่งยืน และ 3) สินค้าขาดตลาดยาวนานกว่า
