ASL ANALYSIS GUIDE

SET Index แกว่งตัวอิงขาขึ้น ผ่านยืนแนวต้าน 1,535-40 เป็น โมเมนตัมบวก ระยะสั้นลุ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 1,560 แนวรับ 1,535-26 ต่ำกว่าเป็นลบ

ประเด็นการลงทุน
1. ติดตามสุนทรพจน์ของพาวเวล
2. ราคาน้ามันดิบปรับตัวลงต่ากว่า $80
3. รัฐสภามีมติให้คุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย
  • วันนี้เคาะ CPAXT ประกาศกำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-4%YoY, -30%QoQ) ด้านแนวโน้ม Q3 จะเป็น High season ของธุรกิจ SSSG คาดเป็นบวกได้ทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกจะทำให้ยอดขายเติบโตได้ดี QoQ และ YoY ด้านแนวโน้มของต้นทุนค่าไฟลดลงและรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้ SET ปิดที่ 1,545.60 จุด เพิ่มขึ้น 19.75 จุด (+1.29%) มูลค่าซื้อขาย 71,924.04 ล้านบาท พุ่งขึ้นกว่า 20 จุด ตอบรับสว.ลงมติหนุน เศรษฐา เป็นนายกฯ เกินเป้า ทำให้เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

Research Highlight: ตลาดต่างประเทศไม่สดใส แต่ภายในประเทศเด่น

ติดตามสุนทรพจน์ของพาวเวล

  • นักลงทุนยังมีความกังวลว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าคาด เพื่อสกัดเงินเฟ้อ (Fed watch tool รายงานตลาดประเมินว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งที่ 2 ในเดือน มี.ค.61) สะท้อนผ่าน US band yield อายุ 10 ปี ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง กระทบต่อต้นทุนทางการเงินที่อยู่ ระดับสูง กระทบต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภค
  • ทั้งนี้จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ของพาวเวล ในการประชุมที่แจ็กสันโฮล โดยคาดหวังว่าจะส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน ซึ่งมีโอกาสที่จะยังคุมเข้มในการใช้นโยบายการเงิน หากวันนี้จะมีรายงานข้อมูลภาคอสังหาฯ (รายงานจํานวนใบอนุญาตก่อสร้างและยอดขายบ้านใหม่) ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ต่ำกว่าคาดที่ 240k ตน. จากครั้งก่อนที่ 239k ตน. รวมถึงปธ.เฟด สาขาริชมอนด์ ที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่ฟื้นตัวมากกว่าชะลอตัว รวมถึงอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมาย
  • S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกลุ่มธนาคารในภูมิภาค 5 แห่ง ลง 1 ขั้น โดยระบุถึงผลกระทบจาก อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และการโยกย้ายเงินฝากที่เกิดขึ้นทั่วทั้งภาคธนาคาร ซึ่งเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ หลังจากมูดีส์ได้ปรับลดอันดับความเชื่อถือของธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐจํานวน 10 แห่งลง 1 ขั้น กดดันกลุ่มธนาคารในภูมิภาคปรับตัวลง โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค (KBW regional bank index) ร่วงลง 2.7% เมื่อคืนนี้ สําหรับผลกระทบต่อธนาคารในไทยค่อนข้างจำกัด เนื่องจากทั้งหมดมีความเพียงพอของ กองทุนที่สูงเกินเกณฑ์ ธปท. รวมถึงการบริหารจัดการสภาพคล่องที่รัดกุม

ราคานํ้ามันดิบปรับตัวลงต่ำกว่า $80

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ $60 จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัว ลงในประเทศจีน ได้บดบังปัจจัยบวกจากการที่ซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน และ รัสเซียประกาศลดการส่งออกน้ำมัน
  • ได้รับผลกระทบจากรายงานที่ว่า รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิรักกำลังหารือกับทางการตุรกีเกี่ยวกับการรื้อ ฟื้นการส่งออกน้ำมัน หลังจากที่ตุรกีระงับการส่งออกน้ำมันของอิรักจํานวน 450,000 บาร์เรล/วัน ผ่านทางท่อส่งนํ้ามันหีอยู่ในทั้งสองประเทศในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
  • เป็น sentiment เชิงลบต่อกลุ่มพลังงาน แนะนำทยอยขายทำกำไร PTTEP PTTGC TOP IRPC BCP

รัฐสภามีมติให้คุณ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย

  • วานนี้มีการประชุมสภาเพื่อโหวตนายกฯ รอบที่ 3 โดยมีคุณเศรษฐา เป็น candidate จากพรรคเพื่อไทย โดยได้รับเสียงโหวตกว่า 482 เสียง โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ โดยนโยบายหลักที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่ Digital wallet, การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, การเพิ่มผลผลิตและราคาของสินค้าทางการเกษตร, กัญชาทางการแพทย์, การลดค่าครองชีพอย่างค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นต้น
  • เป็น sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนใน SET เนื่องจากปรับตัว outperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค จากความ ล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงคาดว่านักลงทุนต่างชาติจะเชื่อมั่นในเสถียรภาพของรัฐบาล จากการสลายขั้ว ทางการเมือง
  • ในเชิงกลยุทธ์ เป็นบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องด้าน Digital IT เช่น ขายสินค้า IT COM7 SYNEX SPVI รับงาน Digital transformation ของภาครัฐ BE8 BBIK ITEL กลุ่มค้าปลีก CPALL CPAXT BJC DOHOME กลุ่ม อสังหาฯ SIRI SC LH BRI ORI กลุ่มการลงทุนแบบ FDI จากความเชื่อมั่น นลท. ต่างชาติ WHA AMATA กลุ่มธนาคาร BBL KBANK SCB TTB KKP กลุ่มทุนใหญ่ ADVANC CPN CPALL GULF EA PTT

Investment Strategy

  • ประเมิน SET แกว่งตัวอิงขาขึ้น ขานรับสัญญาณ bullish ใน RSI และ MACD หลังผ่านยืน 1535-40 เป็นโม เมนตัมบวก ระยะสั้นลุ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 1560 แนวรับ 1535-26 ต่ำกว่าเป็นลบ ให้ทยอยทำกำไร
  • ขณะที่การเริ่มเห็นความชัดเจนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล นอกจากนี้อาจเริ่มเห็น fund flow ที่จะไหลเข้า หลังมีโมเมนตัมบวกจากสัปดาห์นี้จะมีงาน Thailand Focus 2023 ที่กว่า 118 บจ. เข้าร่วมคาดหวังให้แนวโน้มที่เป็นบวก มองว่ากลุ่ม Domestic play เช่น กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก บริโภค ท่องเที่ยว จะเป็นกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ และมีโอกาส outperform ตลาดได้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ นลท.ให้น้ำหนักกับสุนทรพจน์ของพาวเวล ในงานสัมมนาที่แจ็กสันโฮล
  • แนะนำ Selective buy

1. หุ้น DCA เป็นผลที่น่าสะสม BANPU INTUCH PTT LH TISCO EGCO

2. หุ้นกลุ่ม Defensive อย่างกลุ่มโรงพยาบาล BDMS BH โรงเรียน SISB

3. Domestic play กลุ่มธนาคาร KBANK BBL SCB KKP กลุ่มค้าปลีก บริโภค CPALL CPAXT CRC CPF CBG กลุ่มท่องเที่ยว AOT ERW MINT SPA

Global Markets

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารระดับภูมิภาคหลายแห่งในสหรัฐ

(+) ตลาดหุ้นยูโรป ปิดบวก โดยหุ้นชิปนำหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นก่อนการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย ขณะที่หุ้นยูบิซอฟต์ บริษัทผลิตวิดีโอเกมพุ่ง แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากบริษัทแอคติวิชันวางแผนที่จะขายสิทธิการสตรีมมิ่งให้กับยูบิซอฟต์

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบติดต่อกัน เป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการชะลอตัว ของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่าอิรักและตุรกีกำลังหารือกันเกี่ยวกับการรื้อฟื้นข้อตกลงการส่งออกนํ้ามัน

(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวก โดยได้แรง หนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ  ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการ ประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮล ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด

หุ้นเคาะไป คุยไป… CPAXT

  • CPAXT ประกาศกำไรสุทธิ 2Q66 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-4%YoY, -30%QoQ) แต่หากไม่นับรายการอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+8%YoY, -18%QoQ) เนื่องมาจากรายได้ที่ 1.2 แสนล้านบาท (+2.5%YoY) จากการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง (Makro) เพิ่มขึ้น 7.4%YoY โดยมี SSSG +6% ขณะที่กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Lotus’s) ลดลง 3.3%YoY มี SSSG -3% เนื่องมาจากสาขามาเลเซียที่ SSSG ลดลงกว่า 12% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับแผนการดำเนินงาน รวมถึงการลดชั่วโมงการให้บริการในบางสาขา ด้านอัตากําไรขั้นต้น 2Q66 อยู่ที่ 13.5% ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 13.7% เนื่องจากธุรกิจค้าส่งมีอัตรากำในขั้นต้นอยู่ที่ 9.8% จากเดิม 9.9% ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกมีอัตรากําไรขั้นต้นเท่าเดิมที่ 18%
  • ด้านแนวโน้มช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทตั้งเป้าการขายด้วยการขยายสาขาในหลากหลายรูปแบบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบไปด้วยสาขาขนาดใหญ่ 8-10 สาขา สาขาขนาดกลางและขนาดเล็ก 70-80 สาขา ด้าน Q3 จะเป็น High season ของธุรกิจ SSSG คาดเป็นบวกได้ทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก แนวโน้มจะทำให้ยอดขายเติบโตได้ดี QoQ และ YoY ด้านแนวโน้มของต้นทุนค่าไฟลดลง และรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง
  • ด้าน Sentiment แนวโน้มเป็นบวกหลังจากสามารถโหวตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยได้สําเร็จ เป็นอีกแรงหนุนสำหรับการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนกำลังซื้อในช่วงปลายปี
- Advertisement -