บล.ฟิลลิป:

VGI: 2Q67 แนวโน้มดีขึ้น q-q แต่อาจขาดทุนอยู่

ถือ TP’67 : U.R.

แนวโน้ม 2Q67 ฟื้นตัวขึ้น q-q จากแนวโน้มสื่อโฆษณาที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง และการขยายธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการรับรู้ขาดทุนในบริษัทร่วมคาดจะดีขึ้น จาก JMART ที่ SINGER ได้ตั้งสำรอง NPL ไปสูงมากแล้ว ส่วน KEX หาแนวทางในการหยุดรับรู้ขาดทุน อาจลดสัดส่วนการถือหุ้นลงหรือการด้อยค่าเงินลงทุนสิ้นปี ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางยังคงแนะนำ “ถือ” อยู่ระหว่างปรับประมาณการลง

  • ธุรกิจโฆษณายังฟื้นตัวต่อเนื่อง: ธุรกิจโฆษณายังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามการผู้โดยสารบีทีเอสทีดีขึ้น จ่ากโควิด โดยผู้โดยสาร ก.ค. คิดเป็นราว 80% ของช่วงก่อนโควิด ราคาขายยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดราว 10-20% แต่ได้อัตราการขาย (U Rate) ดีขึ้นช่วยไว้ ซึ่งใน 1Q67 อยู่ที่ 45.2% เป็น 38.2% โดยแนวโน้ม 2Q-3Q จะยังฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2567 ตั้งเป้า U Rate ที่ 55-60% และได้สิทธิในการโฆษณบนสายสีเหลือง ซึ่งตอนนี้ทำโฆษณาบนขบวนรถไฟฟ้าก่อน คาดว่าปีแรกมีรายได้ราว 50 ลบ.
  • ดิจิทัลยังโตและค้าปลีกดีขึ้น แต่ยังขาดทุน: ดิจิทัลยังมีแนวโน้มฟื้นจาก Rcare ที่ได้เงินเพิ่มทุนมาขยายธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน และการขยายธุรกิจของ Rcash ซึ่งให้บริการปล่อยกู้ Nano loan และ Welfare loan ซึ่ง Welfare loan มีหนี้เสียต่ำ และมีบริษัทที่ใช้บริการมากกว่า 100 แห่ง แต่การขยายธุรกิจจะมีต้นทุนและ SG&A เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ยังมีผลขาดทุนอยู่ ส่วนธุรกิจค้าปลีก แฟนสลิ้งฯ ยังเน้นสินค้า house Brand ยอดขายลดลง y-y และ TURTLE อยู่ในช่วงขยายธุรกิจ ปีนี้มีแผนเปิดร้าน TURTLE บนสถานีบีทีเอส 20 สถานี จะทำให้ค่าเสื่อมเข้ามาก่อน และยอดขายค่อยๆ ปรับขึ้น ทำให้ยังขาดทุนในธุรกิจค้าปลีกอยู่ และ TURTLE ยังได้สิทธิสายสีเหลือง แต่จะเป็นร้านขนาดเล็ก
  • บริษัทร่วมแนวโน้มขาดทุนลดลง: 1Q67 VGI รับรู้ขาดทุนจากบริษัทร่วม 274 ลบ. หลักมาจาก KEX ขาดทุนเพิ่มเป็น 1,048 ลบ. จากขาดทุน 732 ลบ. และ JMART ขาดทุน 661 ลบ. จากกำไร 389 ลบ. ที่รับรู้ขาดทุนจาก SINGER แนวโน้ม JMART ดีขึ้นหลัง SINGER ตั้งสำรอง NPL ไปมากแล้ว ส่วน KEX อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางอาจลดการถือหุ้น เพื่อไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนหรือตั้งด้อยค่าเงินลงทุน ซึ่งจะมีรายการพิเศษเกิดขึ้น ซึ่งจะแน่ชัดในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้า
- Advertisement -