ทยอยลดพอร์ตการลงทุนหลังดัชนีรับปัจจัยบวกไปแล้ว

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.54% ขานรับคาดการณ์ผลประกอบการที่อาจจะออกมาแข็งแกร่งของ NVIDIA โดยนักลงทุนรอดูแถลงจาก Jackson Hole ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.9% ถูกกดดันจากการชะลอตัวของ PMI

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมาฝั่งยุโรปรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ พบว่าส่วนใหญ่ต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์และต่ำกว่าระดับ 50 ขณะที่เมื่อคืนสหรัฐฯ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิตที่ 47 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ 48.9 และภาคบริการที่ 51 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ ที่ 52.1 แต่รายงานยอดขายบ้านมือหนึ่งที่ 7.14 แสนหลังคาเรือนสูงกว่าตลาดคาดที่ 7.05 แสนหลังคาเรือน อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งอายุ 2 ปี และ 10 ปีปรับตัวลง ด้าน CME FED Watch ให้น้ำหนัก 86.5% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนกันยายน ส่วนคืนนี้นัก ลงทุนจะเริ่มให้น้ำหนักกับการประชุม Jackson Hole พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.39 แสนราย หากรายงานแล้วต่ำกว่าตลาดคาดการณ์จะเป็นปัจจัยกดดัน

สำหรับปัจจัยในประเทศประเมินว่า SET ตอบรับเชิงบวกต่อปัจจัยด้านการเมืองไปแล้ว ดังนั้นจึงมิได้คาดหวัง Upside ที่มากนักจากนี้ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนยังค่อนข้างอ่อนแอ ซึ่งล่าสุด Bloomberg Consensus คาดการณ์ SET EPS 2023 ที่ 89.5 บาท / หุ้น ถูกปรับลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุดที่ 105 บาท / หุ้น ส่งผลให้ในเชิง Earnings Yield Gap ปรับลงมาชื้อขายในช่วงใกล้เคียง -1SD บ่งชี้ถึงระดับ Valuation ที่ค่อนข้างแพง นอกจากนี้ Global Demand ก็ยังค่อนข้างอ่อนแอสะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อทั้งฝั่ง EU, US (ตามที่รายงานก่อนหน้า) แม้ประเทศไทยจะมีรัฐบาลชุดใหม่ แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ GDP ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งยังเป็นไปได้ยาก

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1540 – 1558 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคําแนะนําทยอยลดพอร์ตการลงทุน ประเมินระยะถัดไปดัชนียังเต็มไปด้วยหลายความเสี่ยง โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกที่ยังย่ำแย่จะกดดันกำไรบริษัทจดทะเบียน ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้น แนะนำค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) เนื้อสัตว์ (CPF) กลุ่มการเงิน (TIDLOR) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) อาหาร (TU)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.90 บาท) กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+7%YoY, +1%QoQ) สอดคล้องกับประมาณการของเราและ Bloomberg consensus การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจาก 1) อุปสงค์เครื่องปรับอากาศที่สูงขึ้น YoY หลังมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปีก่อน บวกกับแคมเปญ “เก่าแลกใหม่” 2) การขยายสาขา Mega Home เชิงรุก และ 3) รายได้สาขาย่านท่องเที่ยวที่โตขึ้น

AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท) AOT ยังคงแสดงให้เห็นถึงผลดีจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว  รวมถึงการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไปในช่วงสิ้น FY2Q23 เห็นได้จากคําไรสุทธิงวด FY3Q23 สูงถึง 3,156 ล้านบาท +70%QoQ และพลิกจากที่ขาดทุน 2,207 ล้านบาทใน FY3Q22 ขณะที่รายได้เติบโตขึ้น 178% YoY, 18%QoQ มาอยู่ที่ 12,954 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มช่วง FY4Q23 อาจเห็นการชะลอตัวเล็กน้อยเพราะเป็นช่วง Low Seasons

- Advertisement -