บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
BANPU ปรับเพิ่มสมมติฐานราคาถ่านหิน
Action
Trading (Maintain)
TP upside (downside) +7.1%
Close Sep 10, 2021 Price (THB) 12.60
12M Target (THB) 13.50
Previous Target (THB) 10.50
What’s new?
- ราคาถ่านหิน Newcastle ล่าสุดอยู่ที่ US$178/ตัน สูงสุดรอบ 13 ปี ใกล้เคียงจุดสูงสุดในปี 2551
- แม้เรามองว่าราคา ณ ปัจจุบันมี Upside ระยะกลางจำกัดแล้ว อย่างไรก็ตาม คาด 3 เดือน ข้างหน้า ราคาถ่านหินจะสามารถประคองตัวระดับสูงได้ เพราะจะเข้าสู่ไฮซีซั่นช่วงฤดูหนาว
- บริษัทฯ มียอดขายถ่านหินเหมืองอินโดนีเซียท่ียังไม่ได้ทำสัญญาราคา 45% ทำให้ได้ประโยชน์จากราคาตลาดเต็มท่ี เราปรับสมมติฐานราคาถ่านหินเป็น US$130/ตัน และปรับกำไรขึ้น 20%
Our View
- แนวโน้มกำไรปกติ 2H64 แข็งแกร่ง เพราะได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาถ่านหิน – ก๊าซ ซึ่งยังมีทิศทางแข็งแกร่งช่วงฤดูหนาวใน 4Q64
- ทิศทาง ROE และกำไรปี 2564 – 2565 ที่ดูดีขึ้น กอปรกับการเพิ่มทุนทำให้โครงสร้างเงินทุนมั่นคง สามารถลงทุนตามกลยุทธ์ Greener Smarter ปรับราคาเหมาะสมเป็น 13.50 บาท แนะนำ “เก็งกำไร”
- ประมาณการยังไม่รวมโอกาสการลงทุนในอนาคต และ Sensitivity ราคาถ่านหินทุก US$1/ตัน มีผลต่อกำไร 3 ร้อยล้านบาท
ราคาถ่านหินสูงสุดรอบ 13 ปี
ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น +120% จากต้นปี 2564 สู่ระดับ US$178/ตัน ในปัจจุบัน สูงสุดรอบ 13 ปี และใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิมที่ US$184/ตัน ในปี 2551 (บนฐานข้อมูลตั้งแต่ปี 2543) หนุนจาก 1) อุปสงค์เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย (ใช้ถ่านหินสูงสุดอันดับ 1-2 ของโลก) 2) การปรับตัวขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติ ล่าสุด Henry hub อยู่ที่ US$4.9/mmbtu +94%YTD สูงสุดตั้งแต่ปี 2557 ช่วยสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของถ่านหิน เพราะใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเช่นกัน 3) อุปทานในตลาดตึงตัวจากกฎระเบียบเหมืองถ่านหินในจีนที่เข้มงวด, น้ำท่วมในออสเตรเลียช่วงต้นปี, เหมืองอินโดนีเซียได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก, และปัญหาการเมืองจีน–ออสเตรเลียทำให้เกิดมาตรการห้ามนำเข้าถ่านหิน
ได้ประโยชน์จากราคาถ่านหินเตรียมเข้าสู่ฤดูหนาว…ปรับกำไรขึ้น 20%
แม้เรามองว่าราคาถ่านหิน ณ ปัจจุบันอยู่ระดับสูง ทำให้ Upside ในระยะกลางถือว่าจำกัดแล้ว อย่างไรก็ตาม ช่วง 3 เดือนข้างหน้า คาดราคาถ่านหินมีโอกาสทรงตัวในระดับสูงได้เนื่องจากจะมีอุปสงค์ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นในช่วงฤดหูนาวใน 4Q64 อ้างอิงแผนธุรกิจ ณ 2Q64 ปริมาณขายถ่านหินในเหมืองอินโดนีเซียราว 45% ยังไม่ได้ทำสัญญาราคาซื้อขาย ทำให้จะได้ประโยชน์จากการปรับตัวซึ่งของราคาในตลาด ส่งผลให้ทิศทางกำไรปกติ 3Q–4Q64 จะเติบโตดี (กำไรสุทธิอาจผันผวนจากขาดทุน Hedging และกำไรอัตราแลกเปลี่ยน) จากเหตุผลข้างต้น เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ขึ้น 20% โดยปรับสมมติฐานราคาถ่านหิน Newcastle เฉลี่ยปี 2564 เป็น US$130/ตัน (เดิม US$90/ตัน) ส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 1.0 หมื่นล้านบาท
เพิ่มทุนปลดล๊อคการขยายลงทุน
บริษัทฯ อยู่ระหว่างกระบวนการเพิ่มทุน (RO และ Warrant W4-W5) ส่งผลให้จำนวนหุ้นจะเพิ่มขึ้นจาก 5,075 ล้านหุ้นในปัจจุบันเป็น 10,149 ล้านหุ้นในปี 2566 (กรณีการใช้สิทธิแปลงสภาพ Warrant ครบทั้งจำนวน) ทำให้เกิด EPS dilution ปี 2564–2566 ที่ 25%, 40%, และ 50% ตามลำดับ (รวมไว้ในประมาณการแล้ว) อย่างไรก็ตาม การเพิ่มทุนนี้จะช่วยปลดล็อคข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของบริษัทลูก (BPP และ Banpu Next), สร้างความแข็งแกร่งให้โครงสร้างเงินทุน , และรองรับการลงทุนช่วงเปลี่ยนผ่านธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener Smarter โดยนับตั้งแต่การประกาศเพิ่มทุนกลุ่มบริษัทบ้านปูเข้าลงทุน 1) โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ (Temple I) ท่ีรัฐเท็กซัส สหรฐัฯ สัดส่วน 100% มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจ Shale gas โรงไฟฟ้าดังกล่าวจ่ายไฟฟ้าแล้ว ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันทีตั้งแต่ปิดดีลช่วง 4Q64 คาดสร้างกำไร 6 ร้อยล้านบาท/ปี (100%) 2) บริษัท Beyond Green (BYG) ผู้แทนจำหน่ายรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ (Club car) ในไทย, ลาว, กัมพูชา ผ่านหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 30% มูลค่า 300 ล้านบาท
เก็งกำไรตามราคาถ่านหิน มูลค่าเหมาะสมใหม่ 13.50 บาท
คงคำแนะนำ “เก็งกำไร” ตามราคาถ่านหิน และแนวโน้มผลประกอบการ 2H64 ที่แข็งแกร่ง ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 เป็น 13.50 บาท (รวม Dilution จากการเพิ่มทุน และ W4) ประเมินมูลค่าหุ้นด้วยค่าเฉลี่ย PBV 10 ปีที่ 1.3 เท่า (เดิม 1.1 เท่า) สะท้อน ROE ปี 2564–2565 และโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ประมาณการของเรายังมี Upside จากการลงทุนเพิ่มเติม และราคาถ่านหินที่แข็งแกร่งกว่าคาด ประเมิน Sensitivity ทุก US$1/ตัน จะส่งผลต่อกำไร 3 ร้อยล้านบาท
ความเสี่ยง – นโยบายแทรกแซงราคาถ่านหินของจีน, ภัยธรรมชาติ, มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด, ความผันผวนของราคาถ่านหิน-อัตราแลกเปลี่ยน
