ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ รอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.6% ได้แรงหนุนจากหุ้น 3M และ Goldman Sachs โดยทั้ง 2 หุ้นมีข่าวเฉพาะตัว ขณะที่นักลงทุนยังรอดูเงินเฟ้อในคืนพฤหัสบดี ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ทรงตัว โดยที่ยังไม่มีปัจจัยใดๆเข้ามา

Market Outlook

ภาพรวมยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ เมื่อคืนทั่วโลกมิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ ก็ค่อนข้างทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐสหรัฐฯ ราคาทองคำ Dollar Index โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ในสัปดาห์นี้ อาทิ คืนนี้จะมีการรายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 9.5 ล้านตำแหน่ง และขณะเดียวกันจะมีการเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ Bloomberg คาดการณ์ที่ 116 โดยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) ในวันพฤหัสบดี Bloomberg คาดการณ์ที่ 3.3%YoY หากต่ำกว่าประเมินไว้จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น

สำหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นตอบรับกับนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ไปแล้ว จากนี้นักลงทุนจะรอดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีตามกระทรวงต่างๆ อย่างไรก็ตามหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เข้ามายังเชื่อว่า ผลบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจยังจำกัด เนื่องจากเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ ไทยที่มีขนาดใหญ่สุด ได้แก่ การส่งออกและบริการ ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งเห็นได้จาก GDP 2Q23 การบริโภคขยายตัว 7.8%YoY แต่ GDP ขยายตัวเพียง 1.8%YoY แต่กับตลาดหุ้นมองกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) จะได้ประโยชน์เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะมุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจที่การบริโภคก่อน

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1550 – 1570 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยลดน้ำหนักการลงทุน ประเมินดัชนีตอบรับเชิงบวกไปมากแล้วกับปัจจัยด้านการเมือง ขณะที่ต่างประเทศยังไร้ปัจจัยบวกและมีปัจจัย กดดันจากดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงจะสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจและการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน ส่วนหุ้นแนะนำ Trading ระยะสั้นเลือกกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) สินค้า IT (COM7) ส่งออก (TU) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

SAWAD (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 59.00 บาท) เริ่มต้นบทวิเคราะห์ SAWAD ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 59.00 บาท ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งและการซื้อคืนเงินสดทันใจ (FM) กลับเข้ามา จึงคาดว่ากำไรสุทธิของ SAWAD จะกลับสู่เส้นทางการเติบโตได้ในปี 2023 หลังหดตัวลง 5.2% ในปี 2022 เรา ประเมินว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิโตเฉลี่ยต่อปี 16.2% ในช่วงปี 2023-25

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.90 บาท) 3Q23 เราคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวจาก 2Q23 ได้โดยเฉพาะการฟื้นตัวในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งของมากขึ้นแล้ว นอกจากนี้ในช่วงปลายไตรมาสยังมีโอกาสได้รับผลดีจากราคาปลาทูน่าที่ปรับตัวลดลงหลังจากยืนที่ระดับ 2,000 เหรียญสหรัฐฯ/ตันบา ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

- Advertisement -