บล.ฟิลลิป:

วีจีไอ – VGI ปี 2567 คาดขาดทุนจาก บ.ร่วมและขยายธุรกิจ

Key Point

แม้ 1Q67 บริษัทจะมีขาดทุนสูง แต่แนวโน้มในช่วงที่เหลือจะปรับจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น จากการเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในสื่อโฆษณา OOHM ที่ อุตสาหกรรมฟื้นตัวได้ดี ทำให้อัตราการขายดีขึ้น รวมถึงการเติบโตในอนาคต จากสายสีเหลืองและชมพู ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมคาดดีขึ้น หลังกลุ่ม JMART มีการตั้งสำรองลูกหนี้ไปมาก และ KEX อยู่ระหว่างหาแนวทางจะมีความชัดเจนใน 1-2 ไตรมาส แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 3 บาท

1Q67 ขาดทุนสูง ถูกฉุดจากการขยายธุรกิจและส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

1Q67 ที่ขาดทุนสูง 366 ล้านบาท มาจากการรับส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ 274 ล้านบาท หลักมาจากการ KEX ขาดทุนเพิ่มเป็น 1,048 ล้านบาท จากขาดทุน 732 ล้านบาท และ JMART ขาดทุน 661 ล้านบาท จากกำไร 389 ล้านบาท ซึ่งรับรู้ขาดทุนมากลุ่ม SINGER ที่ขาดทุนหนัก 2,396 ล้านบาท แต่เมื่อหักส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมออก ในส่วนของบริษัทจะขาดทุนที่ 92 ล้านบาท มาจากการขยายธุรกิจทั้ง RCare (โบรกเกอร์ประกัน) RCash (นาโนไฟแนนซ์) และ TURTLE ที่เปิดร้าน TURTLE เพิ่ม ทำให้ทั้งต้นทุนและ SG&A ปรับตัวสูง +18.1% และ +39.6% สูงกว่าการเติบโตของรายได้ที่ +7.8% ที่ 1,123 ล้านบาท

ช่วงที่เหลือคาดการดำเนินธุรกิจปกติค่อยๆ ดีขึ้น

ธุรกิจสื่อ OOHM ยังเป็นส่วนที่ฟื้นตัวได้ดี โดยคาดใน 20-30 อัตราการขาย (U Rate) ยังดีต่อเนื่อง จากใน 1Q67 ที่อยู่ที่ 45.2% ซึ่งทั้งปี VGI ตั้งเป้า U Rate ที่ 55-60% ตามตัวเลขผู้โดยสารที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันคิดเป็นราว 80% ของก่อนโควิดแล้ว รวมถึงผลักดันยอดขายในส่วนของโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่น ๆ ให้เพิ่มขึ้น เพราะเป็นส่วนที่มีกำไรสูงจากก่อนโควิดที่มีรายได้ 100-110 ล้านบาท/ไตรมาส อัตรากำไรขั้นต้น 65% ซึ่งใน 1Q67 มีรายได้ 34 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นที่ 35% และเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ได้สิทธิในการบริหารสื่อโฆษณาในสายสีเหลืองบนขบวนรถ 30 ขบวน และ 23 สถานี เริ่มโฆษณาบนขบวนรถไฟฟ้าก่อน คาดรายได้ในปีแรกไม่เกิน 50 ล้านบาท ธุรกิจดิจิทัลคาด RCare โตดีสุดจากการได้เงินทุนมาขยายธุรกิจ ปีนี้ตั้งเป้าผู้ทำประกันโต 50% y-y และ RCash การปล่อยกู้เพิ่มขึ้น และธุรกิจขายสินค้าคาดยังคงลดลง y-y จากรายได้แฟนสลิ้งฯ ที่ลดลงตามการลดสินค้าจากจีน และหันมาเน้น house brand และ TURTLE ปีนี้ตั้งเป้าเปิดร้าน TURTLE ใน 20 สถานี จากปัจจุบันที่มีอยู่ 9 สถานี และยังได้สิทธิในการทำพื้นที่เชิงพาณิชย์บนสายสีเหลือง แต่ผู้โดยสารไม่สูงเหมือนสายสีเขียว จะเปิดเป็นร้านขนาดเล็กหรือบางสถานีเป็นตู้หยอดเหรียญ (Vending Machine) คาด TURTLE จะยังขาดทุนไปอีก 2-3 ปีตามการขยายธุรกิจ

ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมคาดจะดีขึ้น

JMART การขาดทุนจะดีขึ้นหลังจากกลุ่ม SINGER ตั้งสำรองขาดทุนทางด้านเครดิต (หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญไปมากแล้ว กลับมาทำธุรกิจได้ปกติมากขึ้น ทำให้ 2H66 กลุ่ม SINGER จะดีขึ้น ในขณะที่ธุรกิจขายโทรศัพท์เคลื่อนของ JMART เข้าสู่ high season ที่จะมีรุ่นใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ 3Q66 และ JMT บริษัทย่อยของ JMART ซึ่งทำธุรกิจติดตามหนี้ด้อยคุณภาพ มีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากได้ซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใน 2Q66 ส่วน KEX ธุรกิจยังแข่งขันที่สูง VGI อยู่ระหว่างหาแนวทางในการลดผลกระทบจากการรับรู้ขาดทุน อาจเป็นการลดสัดส่วนการถือหุ้นและไม่มีที่นั่งในคณะกรรมการของ KEX หรืออาจใช้วิธีด้อยค่าเงินลงทุน โดยจะมีความชัดเจนใน 1-2 ไตรมาสข้างหน้า

ราคาพื้นฐานปี 2567 ที่ 3.00 บาท ยังคงแนะนำ “ทยอยซื้อ”

จากการรับรู้ขาดทุนในบริษัทร่วมและการขยายธุรกิจที่ทำให้มีต้นทุนและ SG&A เพิ่ม ปรับคาดการณ์รายได้ปี 2567 เป็น 5,594 ล้านบาท และขาดทุน 183 ล้านบาท โดยคาดการดำเนินงานจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือ อีกทั้ง บริษัทถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในสื่อ OOHM ที่มีการฟื้นตัวได้เร็วและดีสุดในกลุ่มสื่อ อีกทั้ง อนาคตจะเติบโตจากสัมปทานใหม่ของ BTS ทั้งสายสีเหลืองและสีชมพู ราคาพื้นฐานบนวิธี SOTP อยู่ ที่ 3 บาท ปรับคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ทยอยซื้อ”

ความเสี่ยง

1. อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

2. การพึ่งพิงบริษัทตัวแทนโฆษณารายใหญ่

3. การขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่อาจไม่เป็นไปตามคาด

- Advertisement -