บล.บัวหลวง:
TMT – ถอดรหัสนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท
อยากรู้เกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท? สงสัยเกี่ยวกับกลไกและแผนงานโครงการนี้หรือไม่? หากคําถามเหล่านี้เป็นประเด็นที่คุณอยากจะรู้รายละเอียดแบบเจาะลึก อย่าพลาดโอกาสเพื่อรับข้อมูลและมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างคุณท๊อป จิรายุส ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท Bitkub Capital Group Holdings ที่จะเข้าร่วมพูดคุยกับเราในวันที่ 1 ก.ย. เพื่อตอบคําตอบที่คุณกำลังมองหาคำตอบ
วัตถุประสงค์ของงาน
พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ จุดสนใจอยู่ที่นโยบายอย่างโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ท่ามกลางค่าถามเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนและไทม์ไลน์การแจกจ่ายเงินดิจิทัล สิ่งสำคัญอีกอย่างคือต้องเข้าใจ เทคโนโลยีที่เป็นรากฐานของนโยบายนี้ เข้าร่วมงานของเราในวันที่ 1 ก.ย. โดยมีคุณท็อป จิรายุส คุณจะได้เจาะลึกกลไกที่ซับซ้อนของนโยบายและความซับซ้อนทางเทคโนโลยี
นโยบายของพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยระบุว่าบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปในประเทศไทยจะได้รับเงินโดยตรง 10,000 บาทผ่าน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” จำนวนเงินดิจิทัลนี้มีอายุหกเดือน และสามารถใช้ได้ภายในรัศมี 4 กม.จากที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจําวันที่จําเป็น ร้านค้าและผู้ขายจะมีตัวเลือกในการแปลงยอดดิจิทัลนี้เป็นเงินบาทผ่านธนาคารที่เป็นพาร์ทเนอร์ สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ สกุลเงินดิจิทัลนี้มีเฉพาะในประเทศไทยและไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ได้ หน่วยดิจิทัลแต่ละหน่วยมีมูลค่าคงที่ 1 บาทเป็นเงินสดที่จับต้องได้ กระเป๋าเงินดิจิทัลจะทํางานบนระบบบล็อกเชน ติดตามธุรกรรมทางการเงิน ผู้รับ และผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ (กลางเดือนเม.ย.)
คําถามที่เกิดขึ้น
ความไม่แน่นอนของแนวคิดนี้ได้ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างมาก โดยมีคำถามสําคัญคือเงิน 10,000 บาท สรุปแล้วคืออะไรกันแน่? มันเป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC), Stablecoin ที่คำ้โดยเงิน Fiat, โทเค็น หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่? หากจัดอยู่ในหมวดเงินอิเล็กทรอนิกส์ ก็หมายความว่ารัฐบาลต้องมีการอัดฉีดเงินทุนครั้งแรก การอัดฉีดทางการเงินนี้อาจเกิดขึ้นจริงในช่วงต้นปีที่กำลังจะมาถึงหรือไม่? นอกจากนี้ ภาพที่ซับซ้อนของกฎระเบียบและการพิจารณาทางกฎหมายยังคุมโครงการนี้อีกด้วย จากมุมมองทางเทคโนโลยี พรรคเพื่อไทยได้ส่งสัญญาณถึงการนำบล็อกเชนมาใช้ โดยปกติแล้วบล็อกเชนจะลิ้งกับการกระจายศูนย์กลางและการพิสูจน์การทํางานจํานวนมาก อย่างไรก็ตาม มีข้อบ่งชี้ว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยอาจเป็นการทำงานในรูปแบบรวมศูนย์มากกว่า คําถามสำคัญอีกข้อที่ต้องคิดคือ แอปพลิเคชันนี้สามารถจัดการธุรกรรมจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่