KS Daily View 31.08.2023 >>> คาดดัชนีวันนี้แกว่งตัวขึ้นในกรอบตอบสนองตลาดมอง Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯชะลอตัว ประเมินกรอบซื้อขาย 1,570/1,585  หุ้นแนะนำ SAK AP

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้

  • ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.11%, S&P 500 +0.38%, NASDAQ +0.54%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 เช่น information technology (+0.83%), Energy (+0.51%), Industrials (+0.44%) ขณะที่ Utilities (-0.43%), Health care (-0.03%), Financials (+0.12%)
  • ในประเทศ: SET Index +7.86 pts. หรือ +0.50% ปิดที่ 1,576.67 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ PTTEP (+1.88%), ADVANC (+1.40%), BDMS (+1.79%), DELTA (+0.46%) ขณะที่ PTT (-0.70%), CPALL (-0.76%), GULF (-0.51%), KBANK (-0.75%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

บรรยากาศตลาดโดยรวมเป็นบวก แต่ตลาดไม่ได้มีปัจจัยใหม่ชัดโดยยังคงลุ้นกับประเด็นเดิมคือตั้งครม.เศรษฐา 1 และ Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ดัชนีค่อนข้างแข็งแกร่งหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่โหวตนายกผ่านได้เศรษฐาเป็นนายก ตลาดรอตั้งครม.หลังเริ่มเตรียมกระบวนการตรวจสอบประวัติก่อนที่จะส่งรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯและลุ้นครม.เริ่มทำงานได้ภายในกลางเดือนก.ย.และหวังครม.จะออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวได้ก่อนวันชาติจีน 1 ต.ค. ขณะด้านต่างประเทศ สหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอต่ำคาดทำให้ตลาดมอง Fed อาจหยุดขึ้นดอกเบี้ย มองกรอบซื้อขายที่ 1,570/1,585 จุด

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. สหรัฐฯรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP non-farm employment change) เดือนส.ค. ที่ 177k ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 194k ตำแหน่ง และน้อยกว่าเดือนที่แล้วมากหลังมีการถูกปรับปรุงตัวเลข (revision) ขึ้นเป็น 371k ตำแหน่ง (จากเดิมที่ 324k ตำแหน่ง) อีกทั้งตัวเลข GDP สหรัฐฯสำหรับไตรมาสที่ 2/2566 ประกาศครั้งที่ 2 ถูกปรับปรุงแล้วปรับลดลงเล็กน้อยเป็นการขยายตัวที่อัตรา 2.1% QoQ เทียบกับการประกาศในครั้งแรกที่ 2.2% QOQ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ออกมาอ่อนแอช่วงข้ามคืนช่วยหนุนให้ตลาดมองว่า Fed ไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อแล้วเนื่องจากตัวเลขจ้างงานชะลอตัวลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงและอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับลดลง
  2. นายวิศักดิ์ วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน หรือแอลพีจี (LPG) ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมออกไปอีก 1 เดือนจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 66
  3. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงการส่งมอบงานด้านเศรษฐกิจ รวมถึงการจัดทำร่างนโยบายของรัฐบาลเพื่อแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยเปิดเผยภายหลังว่าได้มีการหารือเรื่องของราคาพลังงาน ค่าไฟและน้ำมันดีเซล รวมถึงประเด็นอื่นๆ โดยหนึ่งในนั้นคือขั้นตอนในการลดราคาค่าไฟกับค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งจะมีประกาศหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกแน่นอน
  4. สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เผยข้อมูลยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 15.2% ในเดือนก.ค. นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน หลังจากที่อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรายงานระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งขึ้น 60.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังได้แรงหนุนจากการให้เงินอุดหนุนในสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า คิดเป็น 13.6% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากระดับในเดือนก.ค. 2565 ที่อยู่ต่ำกว่า 10%

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,540 – 1,585 จุด บนมุมมองเชิงบวกต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว พร้อมกับภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นโลกที่ฟื้นตัวจากสัญญาณดอกเบี้ยใกล้พีค และจีนมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม พร้อมคาดว่า Fund flow จะหยุดขายหุ้นไทย และอาจมีบางส่วนไหลกลับเข้าลงทุนด้วย Theme ในสัปดาห์นี้แนะนำกลยุทธ์ Selective Buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ หรือมีแนวโน้มผลประกอบการ 2H23 ฟื้นตัวขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • Top pick: SAK (ราคาพื้นฐาน 6.7 บาท) ภาพแนวโน้มธุรกิจคาดจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง โดยเรามอง NPL เริ่มควบคุมได้ ทำให้ credit cost ในช่วงครึ่งปีหลังจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก อีกทั้งราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและนโยบายภาครัฐที่จะช่วยหนุนมองเป็นบวกกับบริษัท กอปรกับราคาหุ้นมี upside valuation ทำให้เรามองหุ้นมีความน่าสนใจเข้ากับกระแสปัจจุบัน
  • Top pick: AP (ราคาพื้นฐาน 14.2 บาท) มองโมเมนตั้มกำไรเร่งโตดี ขณะที่ valuation ยังถูก โดยบริษัทเตรียมโอนรับรู้รายได้โครงการคอนโดใหญ่ The Address สยาม-ราชเทวี มูลค่า 8.6 พันลบ. อีกทั้งมีแผนเปิดโครงการแนวราบอีกถึง 15 โครงการ มูลค่ารวม 1.98 หมื่นลบ.ในหลายทำเลในไตรมาส 3/2566 ช่วยหนุนแนวโน้มกำไรใน 2H66 เติบโตแข็งแกร่ง ขณะ valuation ถูกที่เพียง PE 6x และให้ปันผลสูง 5-6%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดีช่วงเช้าติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของจีน (Manufacturing PMI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดที่ 49.1 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 49.3 จุด ช่วงบ่ายติดตามตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย (MPI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดหดตัว 3.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 5.2% YoY ช่วงข้ามคืนติดตามตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ 236k คน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 230k คน
  • วันศุกร์ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ตลาดคาดที่ 169k ตำแหน่ง เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 187k ตำแหน่ง ต่อด้วยอัตราการว่างงานของสหรัฐฯตลาดคาดที่ 3.5% ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและปิดท้ายสัปดาห์ด้วยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ (US ISM manufacturing PMI) ตลาดคาดที่ 46.9 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 46.4 จุด
- Advertisement -