แกว่งตัวอิงทางลง 1610 – 1630

ตลาดหุ้นวันนี้

  • แกว่งตัวอิงทางลง: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งตัวอิงทางลงระหว่าง 1610 – 1630 จุด จาก Sentiment เชิง ลบภายนอกเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยภายในเป็นตัวช่วยประคองการอ่อนตัว โดยวานนี้ แม้สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อใกล้คียงกับที่ตลาดคาด ส่งผลให้ตลาดเริ่มคลายกังวลกรณีที่ FED อาจเร่งทำ QE Tapering เร็วกว่ากำหนด แต่ตลาดกลับต้องเผชิญกับปัจจัยเชิงลบใหม่ คือกรณีที่พรรคเดโมแครตได้เสนอให้ปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate tax rate) จากระดับ 21% สู่ระดับ 26.5% เพื่อผ่านร่างกฎหมายงบประมาณสำหรับสังคม และสิ่งแวดล้อมวงเงิน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สรอ. ส่งผลให้ Sentiment การลงทุนในต่างประเทศไม่ค่อยสู้ดี สะท้อนจากการขายสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อาทิ Dollar Index ที่แกว่งตัวออกข้างอิงทางแข็งค่าเล็กน้อยบริเวณ 92.67 จุด และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.29% (มีความสัมพันธ์เชิงผกผันกับราคา) อย่างไรก็ดี ตัวช่วยประคองการย่อตัวของตลาดหุ้นไทย น่าจะยังอยู่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศที่เริ่มปรับตัวลงมาหลุดกรอบระหว่าง 1.4 – 1.6 หมื่นรายต่อวันในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า นี้ ล่าสุดเช้านี้ สธ. รายงานพบผู้ติดเชื้อ 13,798 ราย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเปิดเมืองจึงยังมีความน่าสนใจอยู่
  • เงินเฟ้อสหรัฐออกมาใกล้เคียงตลาดคาด แต่ถ้าดู m-m ถือว่าตัวเลขเริ่มชะลอตัวลง: วานนี้สหรัฐรายงานตัวเลข CPI และ Core CPI ออกมา 5.3%y-y และ 4.0%y-y ถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด แต่ถ้ามองในภาพการขยายตัวในรอบเดือน จะพบว่า CPI และ Core CPI ขยายตัวเพียง 0.3% m-m และ 0.1% m-m ตามลำดับ ถือว่าชะลอตัวลงกว่าในช่วง 5 เดือน ก่อนหน้าที่ CPI ขยายตัวในช่วงระหว่าง 0.5%–0.9%m-m และ Core CPI ขยายตัวระหว่าง 0.3%–0.9%m-m ดังนั้น ทางฝ่ายจึงมองว่านักลงทุนจะค่อยๆ คลายความกังวลในกรณีที่ FED อาจเร่งทำ QE Tapering เร็วกว่ากำหนดการ และนักลงทุนจะเริ่มย้ายความสนใจไปท่ีการประชุม FED ในวันท่ี 21-22 ก.ย. เพื่อดูการส่งสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE ที่อาจจะมีความชัดเจนมากขึ้น
  • หุ้นกลุ่มเปิดเมืองยังมีความหวัง: นอกจากพัฒนาการทางด้านจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่กลับมาลดลงอีกครั้ง ยังมีความคืบหน้าทางด้านวัคซีน COVID-19 ที่น่ายินดีมากขึ้น หลังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ลงนามสัญญากับ ซิลลิคฟาร์มา นำเข้าวัคซีน Moderna จำนวน 8 ล้านโดส เพื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นต้นปี 65 และครม.อนุมัติงบกว่า 946 ล้านบาท ให้สภากาชาดจัดซื้อ Moderna จำนวน 1 ล้านโดส คาดส่งมอบต้นปี 65
  • ตัวเลขเศรษฐกิจน่าติดตามคืนนี้: 1) สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐ ตลาดคาดลดลงราว 3.54 ล้านบาร์เรล มากกว่าสัปดาห์ก่อนที่รายงานลดลงเพียง 1.53 ล้านบาร์เรล และ 2) ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐตลาดคาดขยายตัว 0.4%

Picks of the day

TOP BUY

  • GRM ฟื้น q-q: แนวโน้มค่าการกลั่น (GRM) 3Q64 คาดฟื้นตัว q-q จากอุปสงค์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น หลังการ คลายล็อกดาวน์ในหลายๆ ประเทศ โดย 3QTD GRM อยู่ที่ 3.62$/bbl จาก 2.05$/bbl ใน 2Q64 อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากเฮอริเคนในสหรัฐส่งผลให้โรงกลั่นในสหรัฐหลายแห่งปิดลง
  • ปรับลด OSP มีผล 4Q64: ซาอุดิอารามโกแจ้งการปรับลด OSP การส่งออกน้ำมันมาเอเชียลง 1-1.3 $/bbl ช่วยให้ต้นทุนน้ำมันลง ซึ่งจะมีผลใน 4Q64

EPG BUY

  • ต่างประเทศยังหนุน: คาดยังไดป้ ระโยชน์จากเศรษฐกจิ ต่างประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น ช่วยหนุนผลดำเนินงานของบริษัทในเครือทั้งธุรกิจ AFC และ ARK ซึ่งมีฐานรายได้ส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ นอกเหนือจากกำลังการผลิตท่ีเพิ่มขึ้น 4,000 ตันต่อปี และการขึ้นราคาขายสินค้าในธุรกิจ AFC
  • อานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน: ด้วยแนวโน้มค่าเงินบาทที่กลับมาส่งสัญญาณอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น อานิสงส์บวกส่วนเพิ่มที่จะดีต่อผลดำเนินงานของ EPG จากฐานรายได้ที่มาจากต่างประเทศ
- Advertisement -