วันนี้คาดตลาด “แกว่งลงต่อ”

แนวรับ 1,542 / 1,532 แนวต้าน 1,555 / 1,563 คาด Sentiment ชี้นำจากตลาดสหรัฐปิดทำการในวันแรงงาน / เช้านี้ติดตามการรายงานตัวเลข PMI ภาคบริการของจีน / ความกังวลนโยบายปรับลดราคาพลังงานคาดจะยังกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้ต่อ

Our View? “ทีนี้ก็ว้าวุ่น”

คาดตลาดวันนี้ “แกว่งลงต่อ” มองแนวรับที่บริเวณ 1,542 / 1,532 และแนวต้านที่บริเวณ 1,555 / 1,563 เราคาดวันนี้ตลาดคาด Sentiment ชี้นำจากตลาดต่างประเทศ โดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรามีความกังวลคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) ที่ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ เช้านี้รุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.20%+/- (+0.52%) แม้ตลาดจะคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเริ่มเห็นสัญญาณตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มลดความตึงตัวลงผ่านตัวเลขการจ้างงานต่างๆ ที่ออกมาอ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาผ่านตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ณ ปัจจุบันยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมาย รวมทั้งเราเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้นของดัชนีภาคการผลิตและการบริการ สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง และเงินเฟ้อจะยังอยู่สูงต่อไป คาดจะกระตุ้นให้ตลาดเริ่มกังวลว่า FED อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระยะสูงยาวนานมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยล่าสุด Moody’s Investors Service ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐปี’66 สู่ระดับ +1.9% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ +1.1% จากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐปี’67 ไว้ที่ระดับ +1.0% จากอัตราดอกเบี้ยที่คาดจะอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแรงลง ทั้งนี้ เรายังคงมุมมองเดิมของเราที่คาดว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยคาด FED จะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเรามองยังต้องใช้ระยะเวลาในระยะหนึ่ง คาดจะกดดัน จำกัด Upside ของราคา สินทรัพย์เสี่ยงได้ ขณะที่เช้านี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการของ จีนเดือน ส.ค. โดย Caixin คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ 53.5 ยังอยู่เหนือระดับ 50.0 แต่ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าสะท้อน ถึงการบริการของจีนเริ่มชะลอตัวลง อาจกดดันทิศทางตลาดในภูมิภาคได้บ้าง

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศวันนี้ แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. ผ่านตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +0.29%MoM และ +0.61%YoY ขณะที่ Core CPI คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ +0.80%YoY สะท้อนกำลังซื้อในประเทศอ่อนแอต่อเนื่อง บ่งชี้เศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ แต่คาดจะกระตุ้นคาดการณ์ถึง กนง. อาจจะไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ต่อ เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC, AEONTS, JMT และ BAM) จากแนวโน้มต้นทุนทางการเงินมีโอกาสลดลงในระยะถัดไป ทั้งนี้เรายังแนะนำติดตามการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯ ในวันที่ 5 ก.ย. และคาดจะมีการแถลงนโยบายและประชุม ครม. นัดพิเศษในสัปดาห์นี้-หน้า คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิหุ้นในกลุ่มการเงินและกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, TNP และ BJC) ที่ได้รับความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้เราคาดว่าการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในสิ้นปี’66 เป็นไปได้ยาก คาดจะจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง  อย่างไรก็ดี เรามองความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 1Q’67 โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท คาดจะช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้เช่นกัน รวมทั้งการส่งสัญญาณเตรียมยกเลิกวีซ่าให้กับประเทศจีนและอินเดีย รวมทั้งขยายระยะเวลาท่องเที่ยวของชาวรัสเซียได้ 90 วัน และแนวโน้มในการปรับลดภาษีน้ำมันเครื่องบินในประเทศลงเหลือที่ระดับ 0.20 บาทอีกครั้ง คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, CENTEL, ERW, AAV และ BA) ได้ต่อ อย่างไรก็ตาม เรามีความกังวลต่อแนวโน้มการออกนโยบายลดราคาพลังงานของรัฐบาลชุดใหม่ คาดจะเกี่ยวกับการปรับภาษี, ค่าการตลาด, ภาระทางการเงิน รวมทั้งยังส่งสัญญาณจะนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งคาดว่าหุ้นในกลุ่มพลังงาน (PTTEP) โรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM และ GPSC) โรงกลั่น (TOP, BCP และ SPRC) จะได้รับผลกระทบเชิงลบกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลงถ่วงตลาดได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “ILM”

  • คาดกำไร 3Q’66 ดีขึ้น YoY แต่ชะลอตัวลง QoQ แต่คาดว่า 4Q’66 กำไรจะฟื้นตัวขึ้นได้ดีอีกครั้งจากช่วง  High Season โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่คิดเป็นสัดส่วนราว 32% ของยอดขาย
  • ทางเทคนิคราคาปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น พร้อม Vol. หนาแน่น MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ แนะนำ “เก็งกำไร/ย่อซื้อ”
  • กลยุทธ์ เก็งกำไร / ย่อซื้อ แนวรับ 22.80 / 22.40 Target 24.00 / 25.60 Stop <21.70

- Advertisement -