Daily Focus: Selective Play
Mid-2024 SET Target: 1650
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงพอสมควร ปิดลบ 12.83 จุด ณ สิ้นวัน มูลค่าการซื้อขายเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยเป็นกว่า 5 หมื่นลบ. ภาพรวมตลาดอ่อนแอกว่าที่เราคาด และสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวกได้ และแรงขายกระจายตัวในหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มฯ หลัก ทั้งพลังงาน ค้าปลีก ไฟแนนซ์ เป็นต้น สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นกว่า 2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขาย 432 ลบ. (และ Short Index Futures 3.5 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะแกว่ง Sideways กรอบ 1,540-1,555 จุด โดยตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้คือการประกาศเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ของไทย ซึ่งคาดว่าจะไม่เป็นแรงกดดันให้กนง.ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ 2.25% ส่วนประเด็นการเมืองวันนี้ครม.ชุดใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรายังเชื่อว่าจะยังเป็นบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและยาวที่จะทยอยออกมาใน 4Q23-2024 ระยะสั้นตลาดถูกขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังได้ตัวนายกฯ แม้โมเมนตัมบวกระยะสั้นอาจเสียไปบ้าง แต่หากยังไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับ 1,540 จุด จะยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นได้ เรายังคงมองว่าเศรษฐกิจไทยและกำไรบจ.กำลังผ่านจุดที่แย่ที่สุดใน 2Q23-3Q23 ก่อนเร่งตัวขึ้นใน 4Q23- 2023 เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม Domestic Play ที่จะได้อานิสงส์โดยตรงและคาดมี โอกาส Outperform ในระยะกลาง-ยาวหากเทียบกับ Global Play ที่ปรับขึ้นดีในช่วงก่อนหน้า ทั้งพลังงานและอิเล็กทรอนิกส์
กลยุทธ์ : เน้นกลุ่ม Domestic Play และหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไร 2H23 แข็งแกร่ง//ถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมบริเวณ 1,500+- จุดไปแล้ว
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : AOT, CPALL, CPN, NSL, TIDLOR
หุ้นเด่นวันนี้ : NSL
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท
- เราคาดกำไร 3Q23 มีลุ้นว่าอาจไม่อ่อนตัวลง q-q ตามฤดูกาล เนื่องจากได้แรงหนุนจากการวางขายสินค้าใหม่แซนด์วิชข้าวเหนียวอบร้อนใน 7-11 เมื่อต้น ส.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างนำข้าวแท่งขยายไปในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเรามองว่าเมนูของหวานมีโอกาสที่ประสบความสำเร็จมากกว่า
- เรายังคงประมาณการกำไรปี 2023-24 โต +15% y-y ต่อปี หนุนจากทั้งรายได้ที่เติบโตแกร่ง การรวม Bake a Wish ตั้งแต่ต้นปี และแผนออกสินค้าใหม่ ขณะที่ Margin คาดยังแกร่งจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงจากปีก่อน
- แนวรับ 23 บาท แนวต้าน 24.50-25 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$294 ล้าน แต่กระจุกตัวที่เกาหลีใต้ US$309 ล้าน แต่ไหลออกจากไต้หวันบางๆ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$31 ล้าน แต่ไหลออกจากไทย US$12 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสานและเบาบาง เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่เนื่องจากไม่ค่อยมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญรายงานในช่วงต้นสัปดาห์
ประเด็นสําคัญวันนี้
(0) จับตาเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. วันนี้ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป +0.61% y-y เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.38% ตามราคาพลังงานที่ปรับขึ้น ขณะที่คาดเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.82% y- y ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.86% y-y หากออกมาตามคาดหรือต่ำกว่าคาด จะเป็นปัจจัยช่วยลดแรงกดดันต่อกนง. และเพิ่มโอกาสที่จะกนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 2.25% ในการประชุมครั้งหน้าในเดือน 27 ก.ย. นี้ ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดทุนมากขึ้น และเป็นบวกต่อเศรษฐกิจในระยะถัดไป
(-) TOP เหตุน้ำมันรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล (SMB-2) ชลบุรี เบื้องต้นบริษัทคาดมีปริมาณน้ำมันรั่วไหลราว 75,000 ลิตร แต่สามารถควบคุมที่จุดรั่วได้แล้ว เหตุการณ์รั่วครั้งนี้จะไม่กระทบต่อการเดินเครื่องโรงกลั่น เราคาดความเสียหายอันเกิดจากสินทรัพย์เสียหายและการหยุดดำเนินธุรกิจและอื่นๆ ประมาณ 1,700 ลบ. ซึ่งมีประกันภัยคุ้มครองเกือบทั้งหมด แต่เนื่องจาก SMB-2 ยังต้องใช้เวลาซ่อมแซมนาน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เรือขนถ่ายน้ำมันดิบเข้าสู่โรงกลั่นแทน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งน้ำมันจะเพิ่มขึ้นราว US$1 /บาร์เรล หรือคิดเป็น 940 ลบ. ที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2023 และปี 2024 อีกราว 3,000 ลบ. ค่าเคลมประกันคืนคาดจะได้คืนตั้งแต่ปลายปีหน้าเป็นต้นไป ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการปี 2023-24 ลง 14% และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 56.80 บาท แม้ระยะสั้นราคาหุ้นอาจยังถูกกดดันจากความเสี่ยงที่จะมีความเสียหายเพิ่มเติม และทำให้ราคาหุ้น Overhang แต่เนื่องจากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูงก็จะช่วยชดเชยความเสียหายได้บ้าง และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 10% จากราคาเป้าหมาายเรา ระยะยาวยังแนะนำ “ซื้อ”
(+) STA/NER วานนี้ราคายาง SICOM +7% d-d เป็น US cent 141.4 ต่อกก. สูงสุดในรอบ 8 เดือน มาจาก 1. เริ่มปรับขึ้นตั้งแต่วีคก่อนรับข่าวจีนมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2. กังวล Supply ตึงตัวเพราะยางที่อาจออกสู่ตลาดน้อยกว่าคาดจากภาวะอากาศร้อน และ 3. ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ หากอิงข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุดของ STA และ NER โทนโดยรวมยังไม่สดใสเพราะคำสั่งซื้อยังฟื้นช้า ขณะที่ราคาขาย 3Q23 ยังไม่ฟื้น เพราะเป็นราคาขายที่ล็อกไว้ตั้งแต่ 2Q23 ส่วนราคายาง SICOM ปัจจุบันที่ฟื้นแรง หากยังทรงสูงหรือปรับขึ้นได้ต่อ เรามองเป็นบวกต่อกำไร 4Q23-2024 ของ STA และ NER อย่างไรก็ตาม ราคายางที่ขึ้นมาส่วนหนึ่งมาจากแรงเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้าเป็นหลัก ซึ่งยังมีความผันผวน สิ่งที่เราต้องติดตามเป็นหลัก คือ คำสั่งซื้อยางจากจีน ซึ่งเราจะเห็นผ่านตัวเลขส่งออกยางของไทย หากตัวเลขส่งออกฟื้นด้วย จะยิ่งตอกย้ำถึงรอบขาขึ้นของราคายาง แนะนำ “เก็งกำไร” STA และ NER
(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐ
(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเล็กน้อย กกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปที่ปรับตัวขึ้น
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ ก่อนที่ผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียจะประกาศในเช้านี้ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 4.1%
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าอยู่ที่บริเวณ 35.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ ปรับขึ้นที่ระดับ 85.86 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.36%
(0) ราคาทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ปรับย่อลงที่ระดับ 1,963.60 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.18%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 890.97/ –