ลมแรงจากข้างนอก / 1,535-1,555

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET เดินหน้าในทางลง: โดยถูกกดดันจาก 1) ความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของศก.โลก หลังจีนเผย PMI ภาคบริการเดือนส.ค.66 ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางการชะลอตัวของอุปสงค์ ขณะที่มาตรการกระตุ้นศก.ของจีนไม่สามารถผลักดันการบริโภคในประเทศ กอปรกับยุโรปเผย PMI ภาคบริการเดือนส.ค.66 ร่วงลงสู่ 47.9 ซึ่งเป็นระดับหดตัว และบ่งชี้ว่าศก.ยูโรโซนอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และ 2) การอ่อนค่าของเงินบาทเปรียบเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อ Fund flow หลัง Dollar Index ดีดตัวขึ้นทดสอบระดับ 104.9 จุด โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มศก โลก นอกจากนี้ SET Index ยังถูกดันจากการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี สู่ 4.3% โดยได้แรงหนุนจากการที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟดสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างแท้จริง ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองคาดไม่สามารถเป็นแรงหนุนต่อ SET Index ได้มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอข้อมูลเพิ่มเติมจากการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ของนายกเศรษฐาในวันที่ 11 ก.ย.66 อย่างไรก็ดี ติดตามการประชุมครม.อย่างไม่เป็นทางการในวันนี้  ซึ่งอาจเผยถึงสัญญาณของนโยบายทางศก. หลังนายกฯ เศรษฐาเริ่มเผยว่าดิจิทัลวอลเล็ต คาดจะทําได้ภายในวันที่ 1 ก.พ.67 ขณะที่ทางลงของ SET Index จำกัด โดยได้แรงพยุงจาก 1) หุ้นในกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 1.3% ปิดที่ $86.69 ต่อบาร์เรล หลังซาอุดีอาระเบียเผยว่าจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้าน บาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ และ 2) หุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง ตามเงินเฟ้อไทยที่ยังอยู่ในกรอบของกนง.
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) Spending+ท่องเที่ยว : CPN, DOHOME, ERW, GLOBAL, MTC, SAWAD, SNNP, TNP 2) บาทอ่อน: CPF, MEGA, TKN 3) High season SW.: BCH, BH, CHG และ 4) Selective: AP, BCP, ORI, PTTEP, SPRC, THCOM

ปัจจัยบวก

  • ก.พาณิชย์เผย Headline CPI เดือนส.ค. 66 ขยายตัว 0.88% y-y ขณะที่เฉลี่ย 8M66 ขยายตัว 2.01% y-y โดยยังคงอยู่ในกรอบเงินเฟ้อ 1-3% ของกนง. ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้กนง.เข้าใกล้การยุติวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
  • กองศก.การท่องเที่ยวและกีฬาเผยประเทศไทยมีจำนวนนทท. ต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-3 ก.ย. 66 จำนวน 18.08 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนทท.ต่างชาติแล้ว 7.56 แสนลบ.
  • Goldman Sachs คาดว่าขณะนี้มีโอกาสเพียง 15% ที่ศก.สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งลดลงจากโอกาส 20% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ เนื่องจากเงินเฟ้อชะลอตัวลง และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจไม่จําเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

ปัจจัยลบ

  • สรท. ปรับเป้าส่งออกในปีนี้จาก -0.5% ถึง 1% มาเป็น -1% โดยปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ การชะลอตัวของศก.โลก PMI ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • CIMBT ปรับคาด GDP ไทยปีนี้สู่ 3.0% จากที่คาดไว้ในตอนแรกที่ 3.3% จากศก.จีนชะลอตัวส่งผลกระทบต่อการส่งออก ขณะที่วิจัยกรุงศรีปรับลด GDP สู่ 2.8% จากเดิมคาด 3.3% เนื่องจากภาคส่งออก การลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐที่อ่อนแอกว่าคาด
  • ค่าเงินบาทอ่อนค่าทดสอบระดับ 35.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินบาทในเดือนก.ย.66 (Mtd) อ่อนค่าแล้วกว่า 1.6%
  • Fitch Ratings คาดการณ์ว่า FDI ของจีนจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่อ่อนแอลงของนักลงทุนต่างชาติในปี 66  YSRVONAPOR BUY BUY

PICKS OF THE DAY

SAWAD BUY

  • เป้าหมาย 52.00/53.50 แนวรับ 48.00/49.00
  • ได้ประโยชน์จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบ และมาตรการรัฐ: การยุติวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น จะเป็นส่วนช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ Non-bank ทรงตัว ส่งผลดีต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย และมาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ของรัฐจะช่วยเพิ่มความต้องการสินเชื่อ และเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้
  • รับรู้กำไรจากเงินสดทันใจเต็มไตรมาส: เมื่อรวมกับการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลงมากแล้ว จะเป็นส่วนช่วยให้กำไร 3Q66 เติบโตสูงได้

SNNP BUY

  • เป้าหมาย 23.00/23.50 แนวรับ 21.80
  • โตได้ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสินค้าใหม่หลากหลาย: ในช่วง1H66 ตลาดในประเทศขยายตัว 18% y-y ขณะที่ตลาดต่างประเทศขยายตัวกว่า 16% y-y ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้าไทย กอปรกับบริษัทมีสินค้าใหม่ ทั้งกลุ่ม Energy Drink แบรนด์ เมจิก ฟาร์ม เฟรช และกลุ่มขนมขบเคี้ยว ขาไก่โลตัส รสหม่าล่า เป็นต้น
  • ลุยตลาดต่างประเทศ: ส่วนต่างประเทศมีทั้งความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อขยายตลาดสู่จีน และเตรียมเปิดไลน์ผลิตสินค้า เจเล่ในเวียดนาม ซึ่งคาดจะรับรู้ได้ในช่วง 4Q66 จึงมองมีโอกาสที่จะสร้างยอดขายและส่งเสริมให้เติบโตได้ในระยะยาว
- Advertisement -