บล.กรุงศรีฯ:

TRANSPORTATION SECTOR – ค่าตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายไม่เป็นปัญหา (POSITIVE)

ประเด็นค่าตั๋ว 20 บาท ตลอดสายเป็นเรื่องที่ตลาดกังวล แต่จากการสัมภาษณ์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมล่าสุด นโยบายนี้น่าจะต้องใช้เวลาอีกเป็นปี (ไม่ใช่แค่เป็นเดือน) กว่าจะดำเนินการได้จริง และการให้เงินอุดหนุนจากภาครัฐจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่การแทรกแซงผู้ประกอบการภาคเอกชน เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ทั้ง BEM (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) และ BTS (ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) แต่เลือก BEM เป็นหุ้นเด่นของเราเนื่องจากกําไรมีแนวโน้มเติบโตชัดเจนมากกว่า

ค่าตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะส่งผลดีต่อทั้ง BTS และ BEM

หลังจากตลาดเป็นกังวลกับกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารที่ 5 กันยายน 2023 ว่ารัฐบาลจะไม่เร่งผลักดันนโยบายค่าตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาท เป็นนโยบายเร่งด่วน เมื่อวานนี้ นายสุริยะได้ ออกมาชี้แจงผ่านสื่อ ซึ่งเราได้ฟังการสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ และจับใจความสำคัญได้ ดังนี้

(i) ค่าตั๋วรถไฟฟ้า 20 บาทยังเป็นนโยบายเร่งด่วนของพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่ใช้หาเสียงในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา

(ii) แต่ยังมีอุปสรรคบางประการที่ต้องแก้ไขก่อน จึงจะสามารถดำเนินนโยบายนี้ได้ ซึ่งรวมถึงการหาทางออก ในกรณีค่าใช้จ่าย O&M ที่ยังค้างจ่ายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว และกรณีผู้ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

นอกจากนี้ การจะดำเนินนโยบายนี้ได้ยังต้องมีการพัฒนาระบบตั๋วร่วมด้วย ดังนั้น ระบบการจ่ายเงินจึงน่าจะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยเฉพาะในส่วนของ BTS เพราะระบบของ BTS ในปัจจุบันขึ้นกับ กทม. ไม่ใช่ รฟม. นอกจากนี้ เรายังมองว่าเงินอุดหนุนจากรัฐบาลยังเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลต้องพิจารณาในการดำเนินนโยบายนี้

ถ้ามีการดำเนินนโยบายนี้จริง ภาครัฐจะต้องให้เงินอุดหนุน

เรามองบวกกับหุ้นกลุ่มขนส่งทางบกหลังจากที่ได้ฟังการสัมภาษณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยในประการแรก ประเด็นที่กดดันทั้ง BTS และ BEM มาอย่างยาวนาน อย่างกรณีค่าใช้จ่าย O&M ที่ค้างจ่าย และผู้ชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม น่าจะได้รับการแก้ไขในรัฐบาลนี้ ยิ่งมีการใช้นโยบายค่าตั๋ว 20 บาทตลอดสายเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งแก้ปัญหาที่ค้างคาอยู่ไปได้เร็วเท่านั้น ประการที่สอง ค่าตั๋ว 20 บาท ตลอดสายจะใช้กับรถไฟฟ้าทั้งระบบ ทั้งสายสีเขียว แดง และน้ำเงิน โดยรัฐบาลจะต้องอุดหนุนส่วนต่างระหว่างค่าโดยสารที่แท้จริงที่ BTS และ BEM ต้องได้รับ กับ ค่าตั๋ว 20 บาท ซึ่งเมื่ออิงตามประมาณการของเรา รัฐบาลจะต้องอุดหนุนปีละประมาณ 4.7 พันล้านบาท เพื่อให้นโยบายนี้เกิดขึ้นได้จริง ภายใต้สมมติฐานว่ามีผู้โดยสารเฉลี่ยน 1 ล้านเที่ยวต่อวัน และค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 33 บาท/เที่ยว ทั้งนี้ เนื่องจากสัญญาสัมปทานกำหนดโครงสร้างราคาเอาไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น การจะผลัก ภาระจากการลดค่าตั๋วไปให้ผู้ประกอบการจึงเป็นไปได้ยาก

เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ (ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท)

เราแนะนําซื้อทั้ง BEM (11.50 บาท) และ BTS (ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท) เราชอบ BEM มากกว่า BTS จากแนวโน้มการเติบโตของกำไร โดยมองว่าโมเมนตัมกำไรใน 3Q23 ของ BEM จะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก 2Q23 เพราะผลจากปัจจัยฤดูกาล ในทางกลับกัน เรามองว่าผลประกอบการของ BTS จะยังคงถูกกดดันจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของบริษัทย่อย (VGI) และรถไฟฟ้าสายใหม่ (สายสีเหลือง)

 

- Advertisement -