บล.บัวหลวง:
Inter Pharma (IP TB /IP.BK)
IP – ตั้งหลักใหม่ เพื่อเตรียมไปต่อ
เรามองว่า Downside risk ราคาหุ้น IP จํากัดแล้ว จากถูกเทขายไปหลังงบฯ ออกมาผิดคาด เพราะนักลงทุนสะท้อนความผิดหวังระยะสั้นเข้าไปพอสมควร ดังนั้น จังหวะนี้น่าจะเป็นช่วงของการสะสม หรือ Early Bird call สำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่มองข้ามจังหวะสะดุดระยะสั้นจากค่าการตลาด ไปเห็นเป็นธุรกิจนวัตกรรมยา และการแพทย์แบบครบวงจรในระยะยาว หลังเข้าสู่โหมดเก็บเกี่ยวผลตอบแทน เราจึงยังคงแนะนำซื้อ และกำหนดราคาเป้าหมายใหม่ สําหรับปี 2024 ที่ 16 บาท (ปรับมาอิง PER 35 เท่า)
รายได้ฟื้นตัว ช่วยลดผลกระทบจากค่าโฆษณาและการตลาดใน 2H23
ใน 2Q23 ที่ผ่านมาผลประกอบการ IP ต่ำกว่าทุกคาดการณ์ เพราะมีการใช้ค่าโฆษณาทีวีที่มากกว่าปกติราวๆ 10-20 ล้านบาท (จากการโปรโมทยาสีฟัน Dr. YUU เป็นหลัก) ซึ่งใน 3Q23 จะลดลงอย่างมีนัยฯ เพราะสินค้าตัวโปรโมทใหม่อย่าง Bella Para (ยาพาราเซตามอล) จะเริ่มต้นใน ก.ย.-พ.ย. จึงคร่อมไปที่ 4Q23 มากกว่า แต่แม้ภาพรวมค่าโฆษณาทีวียังสูงกว่าปกติใน 2H23 แต่ก็จะถูกชดเชยด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจาก 1) ยอดสั่งผลิตจาก Teva ใน 3Q-4Q23, 2) จากบริษัทย่อยในกลุ่ม ปตท. ที่คาดว่าจะ Re-stocking 4Q23 และ 3) เข้าสู่ High season ของธุรกิจท่องเที่ยวและการใช้จ่ายหนุนยอดขาย ร้านขายยา Lab Pharmacy เพิ่มขึ้น เราจึงประเมินว่ากำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
จังหวะของการเล่นจะมาเมื่อไหร่?
แม้ระยะสั้นสะดุด แต่แผนมุ่งจะเป็นบริษัทด้านนวัตกรรมยา อาหารเสริม และการแพทย์ครบวงจรตามแผนยังไม่เปลี่ยน โดยจังหวะของการลงทุน IP อาจเกิดได้จาก 1) การปิดดีลกับพันธมิตรกลุ่ม ปตท. ที่มีความตั้งใจสร้างพอร์ตธุรกิจยา-การแพทย์ และ Lotus Pharmaceutical ที่อาจจะอยาก Leverage การผลิตและขยายตลาดแถบ CLMV ผ่าน IP หรือร่วมลงทุนนวัตกรรมใหม่ด้วยกันได้, 2) โอกาสขยายสาขาร้านขายยากับปั๊มของ OR, 3) หากรัฐบาลใหม่มีนโยบายกระจายโอกาสด้านสาธารณสุข อาจมีนโยบายรองรับเพิ่มเติม เช่น เร่งการให้จ่ายยาผ่านร้านขายยา, 4) กระแสตอบรับของสินค้าใหม่ดี หลังยิงโฆษณาออกไป และ 5) การนำ บ.ย่อยเข้า IPO ต่อเนื่องตั้งแต่ปีหน้า
Fine-tune ประมาณการกำไรและเลื่อนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2024
เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2023-25 ลง 36% 28% และ 29% ตามลำดับ เป็น 118 169 และ 209 ล้านบาท ตามลำดับ และคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 21% ต่อปี CAGR ปี 2023-25 โดยประมาณการกำไรใหม่ได้สะท้อนรายได้ที่เติบโตช้ากว่าคาด และค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาดเข้าไปแล้ว โดยเรามองว่าปี 2024 เป็นต้นไป กำไรของ IP จะเริ่มกลับสู่ฐานปกติ (กรณีไม่มีการลงทุนที่ต้องใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือการอัดค่าโฆษณาสินค้ามากกว่า 2-3 ตัว/ปี) และเราได้เลื่อนไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2024 ที่ 16 บาท โดยอิง PER ที่ 35 เท่า หรือเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาวราว -0.5SD (คิดลดไว้ก่อน) ทั้งนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2024 เพียง 24 เท่า หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 49% หรือคิดเป็น PEG เทียบกับการเติบโต ปี 2024 เพียง 0.6 เท่า