บล.บัวหลวง: 11/09/66

รอบด้านตลาดหุ้น: Rotations

ภาพตลาดและแนวโน้ม 

• ดัชนีฯยังทรงๆตัว ในกรอบแคบ แต่ที่ดีขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วคือ การยกฐานใหม่หนีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 25-75 วัน ขึ้นมาได้ และกลับมาปิด 1,547 จุด ซึ่งยังพอมีลุ้นสำหรับ การฟื้นตัวของดัชนีฯ ตามภาวะเริ่มต้นตลาดลูกกระทิง ตามที่เราประเมิน
• และเมื่อหุ้นใหญ่พัก ตลาดหุ้นไทยจึงกลายเป็นสนามของการกลับเข้าเก็งกำไรหุ้น Local play ขนาดกลาง-เล็ก ที่ราคากองอยู้ด้านล่าง หรือพักฐานมาสักระยะ ตามมุมมองที่เราประเมิน คือ “เมื่อราคาหุ้นใหญ่หลายตัวขึ้นมารับนักลงทุนระยะสั้นลงดอย เม็ดเงินจากนักเล่นสั้น จึงเริ่มวนหาหุ้นเล่น ระหว่างที่รอ ภาพความชัดเจนของตลาดหุ้น”
• ซึ่งการ Rotations ลักษณะนี้จะเป็นตัวช่วยพยุงดัชนี ให้เดินบนแนวทาง “ยังมีลุ้นฟื้นตัว ตามที่เราประเมิน”
• โดยกรอบสัปดาห์นี้ คาด Sideways up ในกรอบ 1,540 จุด ถึง 1,560 จุด

หุ้นแนะนำวันนี้ : JMT

Global Investing Brief : ยอดขาย Tesla ในจีนยังโตเด่น เตรียมส่งมอบรุ่นใหม่ คาดหนุนรายได้โตต่อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

• เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดบวก นำโดย DJIA +0.2% S&P 500 +0.1% และ Nasdaq +0.1% หนุนจากหุ้นพลังงาน Chevron (CVX) +0.4% และ Exxon Mobil (XOM) +1.5% ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้น 0.3% ขณะที่สัปดาห์นี้สหรัฐฯ จะเผยอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. 66 (ดัชนี CPI) ในวันที่ 13 ก.ย. 66 โดยตลาดคาดอาจเพิ่มขึ้น 3.6%YoY เพิ่มขึ้นจาก 3.2%YoY ในเดือนก่อน ซึ่งอาจทำให้ตลาดกังวลต่อแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของ Fed ที่อาจคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น โดยปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักที่ 93% และ 54% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. และ พ.ย. 66
•  สมาคมรถยนต์จีนเผยยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla (TSLA) ที่ผลิตในจีน เพิ่มขึ้น 9%YoY แตะ 84,159 คัน ในเดือน ส.ค. 66 หลังจากที่ Tesla ประกาศลดราคาในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่่ Tesla ได้เปิดตัว รถซีดาน Model S และ รถ SUV Model X โมเดลใหม่ที่มีราคาถูกลงราว 10% จากรุ่นปกติ และพร้อมที่จะส่งมอบรถยนต์รุ่นดังกล่าวในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. 66 เราจึงมองเป็นปัจจัยช่วยหนุนยอดขายรถยนต์ของ Tesla ปี 66 ให้โต 40%YoY สู่ 1.8 ล้านคัน อิงจาก Bloomberg cons. ด้าน TP อยู่ที่ $264.58

 ตลาดหุ้นฮ่องกง 

• วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการ เนื่องจากมีพายุไต้ฝุ่น ขณะที่รองนายกฯ จีนเตรียมเยือนรัสเซีย เพื่อร่วมประชุมเศรษฐกิจภูมิภาคตะวันออกครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย. 66 โดยเรามองว่าอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ดีเรามองเป็นผลกระทบจำกัดต่อตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกง หลังเห็นสัญญาณว่าทั้ง 2 ประเทศเริ่มมีการเจรจากันมากขึ้น เห็นได้จากการที่รัฐมนตรีระดับสูงของสหรัสฯ ได้เดือนทางไปเยือนจีนในช่วงเดือน มิ.ย. – ส.ค. 66 ที่ผ่านมา
•  Tencent (700) ได้ร่วมมือกับสถาบันการเงิน เช่น Everbright Bank และ Ping An Bank ให้บริการสินเชื่อ ผ่านฟีเจอร์ ผ่อนชำระ ที่อยู่ใน WeChat Wallet โดยเรามองเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของ WeChat ซึ่งมีสัดส่วนราว 32% ของรายได้ Tencent ให้กลับมาโต 10%YoY ในปี 66 หลังจากที่หดตัว 1%YoY ในปี 65 ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ของ Tencent ที่ HKD443

 ตลาดหุ้นเวียดนาม 

• เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี VN ปิดลบ 0.1% โดย VIC -2.8% VHM -2% และ BID -0.7% ด้านการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 43 ที่กรุงจาการ์ตา นายกฯ อินเดีย เผยว่ามีความต้องการที่จะผลักดันให้บริษัทอินเดียให้ลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้น อีกทั้งนายกฯ อินเดียและนายกฯ เวียดนาม ยังเห็นพ้องว่าทั้งสองประเทศควรเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลร่วมกัน โดยเรามองบวกต่อความร่วมมือดังกล่าว หลังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอินเดียมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาและเป็นแหล่งรวมสตาร์ทอัพที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
• DGW +1.9% หลังเวียดนามเผยยอดขายคอมพิวเตอร์ และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในเวียดนามเพิ่มขึ้น 11%YoY ในเดือน ส.ค. 66 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน ก.ค. 66 ที่เพิ่มขึ้น 28%YoY หนุนจากการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เหลือ 8% อีกทั้งเรามองว่ายอดขายสินค้าไอทีอาจมีแรงหนุนจากความต้องการใช้แล็ปท็อปในช่วงเปิดเทอม (ก.ย. 66 -ม.ค. 67) ด้วยเช่นกัน ที่อาจหนุนให้รายได้ 4Q66 ของ DGW โต 30%YoY อิงจาก Bloomberg cons. ด้าน TP อยู่ที่ VND61,600

หุ้นเด่นประจำวัน : Microsoft (MSFT.US)

• OpenAI (Microsoft เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) จับมือ Canva แพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิก เพื่อใช้แชทบอท AI ในการสร้างภาพ เช่น โลโก้ แบนเนอร์ และอื่นๆ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานมากขึ้น
• เรามองบวกต่อประเด็นดังกล่าว หลังเห็นถึงความสามารถในการนำ AI ไปต่อยอดในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อีกทั้งเรามองเป็นปัจจัยหนุนรายได้ธุรกิจคลาวด์ของ MSFT ที่อาจโตเฉลี่ยปีละ 20% ในปี 65-70 อิงจาก Bloomberg cons.

- Advertisement -