บล.ไอร่า: 12/09/66

วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,535 / 1,530 แนวต้าน 1,542 / 1,550 สัปดาห์นี้คาดตลาดจะติดตามการรายงานตัวเลข CPI ของสหรัฐที่คาดจะออกมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. ขณะที่ Dollar Index และ US-Bond Yield พยายามขึ้นต่อ คาดหนุนตลาด Risk-off ได้

Our View? “อ่อนแอเหลือเกิน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,535 / 1,530 และแนวต้านที่บริเวณ 1,542/1,550 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศบ้าง ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Tesla จากคาดการณ์ Dojo supercomputer ซึ่งเป็นระบบ AI ในการขับขี่อัตโนมัติ (Autopilot) ของ Tesla จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Tesla ได้ หนุนราคาหุ้น Tesla ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ 25.08 ดอลลาร์ (+10.09%) รวมทั้งยังเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ ปรับตัวขึ้นตาม อาทิ Amazon, Intel, Microsoft และ Alphabet เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวก ซึ่งอาจจะหนุนให้เกิดแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ (KCE, HANA และ DELTA) ปรับตัวขึ้นได้ตามหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังมองว่าตลาดจะยังรอดูรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. ของสหรัฐซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญเครื่องมือหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คาดจะออกมา +0.6%MoM/+3.6%YoY ปรับตัวขึ้น จากเดือนก่อนหน้า คาดจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลข Core CPI เดือน ส.ค. คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +0.2%MoM/+4.3%YoY เรามองเป็นการสะท้อนว่าเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นตัวเลขของภาคการผลิตและภาคบริการยังคงแข็งแกร่ง บ่งชี้ถึงกำลังซื้อในสหรัฐที่ยังแข็งแรงอยู่ คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินของ FED ในช่วงเดือน พ.ย. และปีหน้า คาดจะเป็นปัจจัยกดดันทิศทางตลาดได้อยู่ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่น 10 ปีพยายามปรับตัวขึ้นอีกครั้งเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.30%+/- คาดจะยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. เมื่อคืนนี้ยังคงแกว่งตัวออกด้านข้าง หลังพยายามขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ปิดที่ระดับ 87.29 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.22 ดอลลาร์ (-0.25%) แม้จะได้รับแรงหนุนจากรายงานลิเบียปิดท่าเรือส่งออกน้ำมัน 4 แห่งตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาจากผลกระทบของพายุ อย่างไรก็ตามเรามองปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมันในระยะสั้น ขณะที่ความกังวลเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันในจีนลดลงคาดจะยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาน้ำมันได้อยู่ อีกทั้งเรายังคงคาดหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น (TOP, SPRC และ BCP) จะเคลื่อนไหว Under Perform ได้จากคาดการณ์ค่าการกลั่นอาจมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากการอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปในจีนมากขึ้น และการปิดซ่อมบำรุงในภูมิภาคเริ่มน้อยลง อย่างไรก็ดี เรามีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มขนส่ง (PSL, WICE และ III) ที่คาดจะได้รับแรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วงของการ Restocking ก่อนหยุดปลายปี โดยเริ่มเห็นค่าระวางเรือ (BDI) ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1,209 (+1.94%) คาดอาจเห็นแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้บ้าง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองที่เป็นกลางต่อการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล เราคาดว่าตลาดปรับตัวรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม เรามีความกังวลต่อ Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่ยังตึงตัวจากคาดการณ์ EPS ล่าสุดจาก Bloomberg Consensus ยังอยู่ในระดับต่ำที่ระดับ 89.9+/- ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังไม่ค่อยมีความน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 1Q’67 ของรัฐบาลจากนโยบายเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท และโครงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี เรายังมองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic Play อาทิ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, TNP และ BJC) และกลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, TIDLOR, KTC, AEONTS, JMT และ BAM) แนะนำทยอยซื้อสะสม อย่างไรก็ตามเราเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการออกนโยบายดังกล่าว คาดจะส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศอ่อนแอลง  คาดระดับหนี้ของรัฐบาลจะสูงขึ้น คาดเป็นปัจจัยกดดัน-จำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้ต่อ